Wednesday, October 24, 2012

ความตื่นเต้นของนักค้าฯ

สวัสดีครับ,,, 
เขียนเมื่อ 24 ตุลาคม 2555


เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้รับเกียรติให้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่จากตลาด หลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) พร้อมกับผู้บริหารหลายท่านของหลักทรัพย์บัวหลวงครับ.. เนื้อหาค่อนข้างน่าสนใจ โดยเกี่ยวกับตลาดอนุพันธ์ของประเทศเค้าและสินค้าที่หลากหลาย.. วันนี้เลยจะนำมาแชร์ให้แฟนๆนักค้าหน้าหยกฟังซักหน่อย.. แต่! ก่อนที่จะเข้าเรื่อง ขอเท้าความถึงประเทศโซกะปลิง.. สิงคโปร์ซักเล็กน้อยครับ~

ประเทศสิงคโปร์นั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วครับ.. โดยได้รับอันดับเครดิต AAA จาก Fitch Ratings (แปลว่ามั่นคงที่สุดในโลก.. แจ๋วกว่า ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้เสียอีก) ซึ่งแน่นอนอันดับนั้นย่อมสูงที่สุดในอาเซียนด้วย.. เอ.. แล้วถามว่าไทยเราอยู่ตรงไหน? ตอบเลยละกัน.. อันดับ 3 ในอาเซียนครับ! เราได้ BBB รองจากมาเลเซียที่ได้ A-  โดยมีอินโดนิเซีย (BBB-) ฟิลิปปินส์ (BB+) และเวียดนาม (B+) ตามหลังมาติดๆ.. นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มี GDP per capita สูงที่สุดในอาเซียนอีกด้วย – ขยายความจากรูป.. จะเห็นว่ากลุ่ม ASEAN 10 ประเทศถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อยครับ.. กลุ่มแรกคือกลุ่มรวยจัง (ASEAN-6).. และกลุ่มสองนามว่า กลุ่มรังจวย (LVMC) อิอิ

เอาละ.. มาม่ะ.. เข้าเรื่องครับ.. ตลาดอนุพันธ์ในสิงคโปร์นั้นจัดว่าเป็นตลาดที่มีสินค้าหลากหลายที่สุดแห่ง หนึ่ง.. มีชั่วโมงการซื้อขายยาวนานที่สุดในเอเชีย.. และแถมมีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำ เช่น มี margin offsets (คือวางหลักประกันต่ำลงเมื่อเปิด long และ short พร้อมกันคนละ series), ไม่มี capital gains tax (จริงๆก็คล้ายกับบ้านเราอะนะ).. อะเคร.. งั้นไหนลองมาดูสินค้าในตลาดอนุพันธ์บ้านเค้าซิ.. มีไรบ้าง? เผื่อเพื่อนๆนักลงทุนท่านใดสนใจ จะได้ไปจับจ่ายใช้สอยดู (ไม่ใช่กับข้าว.. เจ้ย!?)


จากรูปด้านบน.. จะเห็นว่ามี Futures และ Options ที่อ้างอิงที่ดัชนีของประเทศอื่น เช่น Nifty ของอินเดีย, FTSE China A50 ของจีน.. ที่ซื้อขายในตลาดอนุพันธ์สิงคโปร์ (สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ link นี้ครับ http://www.sgx.com/wps/portal/sgxweb/home/marketinfo/derivatives/delayed_prices/futures) พวกนี้จะเรียกว่า Offshore Trading.. โดยมี correlation กับ Onshore market สูงมาก อยู่ที่ 98%.. เอ๊ะ! แล้วถามว่าถ้ามันใกล้เคียงขนาดนั้นเราจะมาลงทุนแบบ offshore ทำไม.. onshore เลยไม่ดีกว่าหรอ? คำตอบคือ แล้วแต่ครับ.. ข้อดีของการลงทุนแบบ offshore ในตลาดสิงคโปร์มันก็มีประมาณนึง เช่น 1. มีเวลาซื้อขายที่ยาวกว่า 2. เจ้าหน้าที่เค้าเคลมว่าตลาดเค้ามีฐานลูกค้าโตขึ้นเรื่อยๆ.. บ่งบอกถึงสภาพคล่องที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ และ 3. เรื่องของค่าเงินที่ต่างกัน (ข้อนี้อาจไม่ใช่ข้อดีก็ได้).. ส่วนข้อเสีย.. คือ เค้าไม่ได้บอกอะนะ.. แต่ถ้าถามผม.. ผมว่ามันอาจจะยุ่งยากไปหน่อยสำหรับมือใหม่.. TFEX บ้านเรานิแหละ แจ่มที่สุดครับ อิอิ :P


ทีนี้มาเรื่องใกล้ตัวบ้าง (ความรู้ด้านบน รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างไม่เป็นไรนะครับ.. ผมเองก็เบลอๆเหมือนกัน ฮ่าๆ) สืบเนื่องจากวันที่ 29 ตุลาคมนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดอนุพันธ์บ้านเรา.. โดยผมขอเน้นไปที่สินค้าฮอตฮิตติดชาร์ต นั่นก็คือ SET50 Index Futures ละกัน.. กล่าวโดยสรุป สัญญา SET50 Futures จะมีการเปลี่ยนจากการซื้อขายจาก quarterly basis เป็น monthly basis ครับ (เพิ่มสัญญาซื้อขายเข้าไปอีก 2 รุ่น) คำถามคือ.. แล้วเราควรจะลงทุนในสัญญาเดือนไหนดี? เดือนใกล้สุด.. ใกล้น้อยลงไปนิด.. หรือไกลหน่อยไปเลย.. ง่ายๆครับ.. ขึ้นอยู่กับราคาแหละ.. ถ้าราคาไม่ต่างกัน เราก็ลงทุนเดือนไกลคุ้มกว่า.. เพราะเราได้เปรียบในเรื่องของ “เวลา” ในการถือครองที่ยาวนานกว่า.. ตรงนี้ถ้าเทียบกับตลาดอนุพันธ์ที่สิงคโปร์ (ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เค้าซื้อขายแบบ monthly มานานแล้ว) ผู้ลงทุนในประเทศเค้ามีการเปลี่ยนสัญญา (Roll over) กันทุกเดือนครับ (คือเค้าเล่นแต่เดือนใกล้สุดอะแหละ).. มีสภาพคล่องสูง.. สาเหตุหนึ่งก็เพราะตลาดเค้ามีประสิทธิภาพกว่าเราด้วย.. ราคาจึงถูกบิดเบือนได้ยาก.. ก็ต้องมาลุ้นบ้านเรากันครับว่า หลังจากมีการเปลี่ยนแปลง.. ตลาด TFEX จะเปลี่ยนไปเยี่ยงไร.. ตื่นเต้นครับ!

No comments:

Post a Comment