Wednesday, September 25, 2013

Futures Rollover

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2556

สัปดาห์นี้นับว่าเป็นสัปดาห์หฤโหดของ Trader สถาบันอย่างยิ่งครับ.. เพราะนอกจากความผันผวนของตลาดที่ขึ้นๆลงๆซ้ายขวาๆ XOXO หยั่งกับสูตรในเกมยูยูฮาคุโชแล้ว (ใครไม่รู้จักเชิญ th.wikipedia.org/wiki/คนเก่งทะลุโลก) ยังเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเทรด SET50 Index Futures รุ่นตัว U อีก.. จึงไม่แคล้วที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศที่ผมดูแล จะเปลี่ยนถ่าย (Roll over) ไปถือสัญญารุ่นที่หมดอายุเดือนธันวาคม (S50Z13) แทน.. เพื่อนๆท่านใดที่ถือ Series U (กันยายน) อยู่ก็อย่าเพลินนะครับ มีเวลาให้ Roll over จนถึงวันศุกร์ที่ 27 กันยายน เวลา 16.30 น. มิเช่นนั้นระบบจะทำการชำระราคาให้ท่านอัตโนมัติ โดยค่าที่ใช้คำนวณจากดัชนี SET50 ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายและค่าราคาปิดของวันนั้น ตัดค่าที่มากที่สุด 3 ค่า และค่าที่น้อยที่สุด 3 ค่าออก และใช้ค่าทศนิยม 2 ตำแหน่ง.. ที่ต้องซับซ้อนขนาดนี้ ก็เพราะป้องกันการทำราคานั่นเองครับ


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ผมได้มีโอกาสนั่งทานข้าวกับรุ่นพี่ที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์คนเก่งดีกรีนักจัดรายการวิทยุช่องหนึ่ง บทสนทนานั้นสั้นนัก เพราะลำพังข้าวและไก่ที่อยู่ในปากเราทั้งคู่ ก็กินเวลาในการขยับปากไปมากแล้ว แต่ก็มีศัพท์ที่น่าสนใจหลุดมาอยู่ 2 คำ เลยอยากนำมาแชร์ครับ.. Alpha และ Beta

เอาภาษาอังกฤษก่อน:
Alpha is a measure of an investment's performance compared to a benchmark, such as the SET index. It's a mathematical estimate of the return, based basically on the growth of EPS.
Beta is based on the volatility - extreme ups and downs in prices or trading - of the stock or fund, something not measured by alpha. But beta, too, is compared to a benchmark, like the SET index. You can think of beta as the tendency of a security's returns to respond to swings in the market.
แต่เรามักจะได้ยินคนพูดถึง Alpha port และ Beta port มันคืออีหยัง?
Alpha port หมายถึง พอร์ตการลงทุนที่ต้องการได้ผลตอบแทนมากกว่าที่ตั้งไว้ โดยแนวทางการลงทุนจะเน้นไปในทาง active หวังผลตอบแทนสูง ใช้ Asset allocation และอาจมีการใช้อนุพันธ์เช่น SET50 Index Futures (เพิ่ม Leverage) ด้วยก็ได้

ส่วน Beta port หมายถึง พอร์ตการลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนตาม Index หรือผลตอบแทนคงที่แน่นอน ชิลๆ

จบดื้อๆแบบนี้


Wednesday, September 18, 2013

ฝรั่งเปลี่ยนใจ

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2556

“SET เลือกที่จะไปต่อ พร้อมๆกับการกลับมาซื้อของ ฝรั่งในเดือนกันยายน ที่ไม่รู้ว่าพี่แก ตกรถหรือ ตกใจเพราะเห็นหุ้นไทย amazing ขึ้นมากว่า 200 จุดในเวลาไม่ถึงเดือน.. ผมเลยนำกราฟที่เคยให้ชมกันเมื่อไม่นานมานี้มาอัพเดทให้ดูอีกครั้งครับ จุดที่น่าสนใจก็คือ:

1. ดัชนี SET ทะลุขึ้นมายืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1342 (61.8% Fibonacci วัดจาก low เมื่อปี 2011) ได้อย่างหมดจด ทำให้ภาพในระยะกลางดัชนีกลับไปเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1342-1650 ได้อย่างสบายแฮร์อีกครั้ง
2. ดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ผุดหัวโผล่ขึ้นมาเหนือเส้น Downtrend line ได้สำเร็จ พร้อมๆกับการเบรกของตลาดหุ้นใหญ่หลายๆตลาดทั่วโลก เช่น จีน ญี่ปุ่น และเยอรมัน
3. MACD ซึ่งเป็นสัญญาณบอกภาพระยะกลาง กำลังร้องส่งสัญญาณซื้อ


นอกจากนี้ แค่กราฟอย่างเดียวอาจไม่หนำใจแฟนๆนักค้าหน้าหยก.. ลองดูข้อมูล โฟลวฝรั่งด้านล่างประกอบครับ

เป็นที่ชัดเจนไหมครับว่า ฝรั่งกลับมาสอยหุ้นใน TIP ในเดือนกันยายนนี้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหากดูยอดตั้งแต่ต้นปีจะพบว่า ไทยเราโดยกระหน่ำขายมากที่สุดในทวีปเอเซีย ในขณะที่ญี่ปุ่นนิ โอะ ไฮ โยะ ซื้อกันเยอะจัง.. ฉะนั้นผมก็หวังว่าหากฝรั่งจะเปลี่ยนใจกลับมาจริงๆ ก็ขอให้กลับมาที่ไทยเราเยอะที่สุดละกัน

อย่างไรก็ดี อย่าเพิ่งชะล่าใจไปนะครับ เพราะไม่รู้ว่าการกลับมาซื้อของฝรั่งรอบนี้จริงหรือหลอก (ก็ใครมันจะไปรู้... ละ~) แต่อย่างน้อยถ้าจริง เราคงได้หัวเราะโฮกๆพร้อมกับพูดกับหรั่งตกรถว่า...

ช้าไปแล้วต๋อย                                                                                                                                          

Wednesday, September 11, 2013

อนาคต

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2556

ผ่านพ้น ห้วงเวลาผ่อนคลาย ไปได้ 2 อาทิตย์ หุ้นไทยก็กลับมาเคาะหน้าประตูหมายเลข 1400 ได้อีกครั้ง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะดัชนีได้เปิดรูโบ๋ (Gap) ไว้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 ที่ 1380-1400 พร้อมๆกับ MACD ที่ส่งสัญญาณ Bullish Divergence ในภาพรายวัน (ดัชนีลง สวนทางกับ Indicator ที่ปรับขึ้น) ได้ช่วยกันบึ้ดจั้มบึ้ดให้ตลาดกลับมาสดใสอีกครั้ง

จากนี้ไปยังไง? ก่อนอื่นก็ขอชะแว้ปมาอัพเดทสถานการณ์ในตลาดอนุพันธ์เล็กน้อยครับ ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้เจ้า S50U13 ก็ได้เคลื่อนไหวไล่จี้ SET50 Index มาติดๆ ห่างกันเพียงเอื้อมมือหรือประมาณ 4 จุดเท่านั้น หรือศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า Basis เท่ากับ -4


ทั้งนี้ทั้งนั้นและทั้งโน้น เจ้า Basis เคยลงไปต่ำสุดถึง -18.82 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 (นับตั้งแต่ที่ S50U13 active) โดยวันนั้น SET Index ปิดที่ 1355 และในอีก 5 วันทำการถัดมา ตลาดก็ลงมาเกือบ 100 จุด

คำว่า Future แปลว่า อนาคต, SET50 Index Futures แปลตรงๆ ก็คือ อนาคตของ SET50 Index ดังนั้น การที่ราคา Futures ลงไปก่อนล่วงหน้าเยอะๆ ก็เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งครับว่า อาจมีการปรับตัวของ SET50 Index ได้.. เพราะประโยชน์ข้อนึงของ Futures ก็คือ Price Discovery คือ ใช้ทำนายราคาของสินค้าอ้างอิง (Spot) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

แล้วถ้าสมมติว่าเจ้า Basis จากปัจจุบันที่ -4 ถ่างออกมาเป็น -10 กว่าอีกครั้งละ จะเกิดอะไรขึ้น?

ถ้าเป็นเช่นนั้น ตามหลักแล้วตลาดก็ควรจะพักหรือย่อครับ (ลองดู Indicator อื่นประกอบด้วย) เพราะมองในเชิง relative ก็ถือว่าราคา Futures ลงไปล่วงหน้าเยอะขึ้นละ.. แต่หาก Basis จาก -4 กลับขึ้นและกลายเป็นค่าบวกขึ้นมา แสดงว่า นักลงทุน Bullish มากขึ้นละ ตลาดน่าจะขึ้นต่อได้ไม่ยาก อย่างไรก็ดี ณ เวลาที่ผมเขียนอยู่นี้ หุ้นไทยขึ้นมาแล้วกว่า 130 จุด หรือราว 10% จาก low บริเวณ 1260 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2556

พักบ้างมั้ย หรืออยากจะไปต่อ?

Wednesday, September 4, 2013

จับจังหวะหัวใจ

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2556

เห็นตลาดกลับมาบวกได้กว่า 60 จุด (นับจาก low เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนถึงอังคารนี้ช่วงเช้า) ผมก็สบายใจไปเปราะนึงครับ แต่ที่ไม่ค่อยสบายใจก็คือ หากมองในเชิงเทคนิคแล้ว SET Index มีโอกาสเจอแนวต้านสำคัญที่แถว 1342 (61.8% Fibonacci) ซึ่งหากทะลุไปได้อย่างทะมัดทะแมง ก็เป็นไปได้ว่า เจ้า Index น้อยๆของเราจะไปโลดแล่นต่อในกรอบมหาสมุทรที่ 1342 – 1650 ในขณะที่โอกาสลงก็ยังมีให้เห็นอยู่เนืองๆ โดยจากรูปมี 2 ด่านลึกสุดใจอยู่ที่ 1247 (50% Fibonacci) และ 1152 (38.2% Fibonacci)


ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่อยากให้ตื่นตระหนกครับ เพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิคแท้จริงแล้วมันก็คือ การเดาดีๆนี่เอง เพียงแต่ว่ามีการนำข้อมูลในอดีตมาวิเคราะห์อย่างมีหลักการ ซึ่งบางครั้งมันก็ทำนายได้ดี บางครั้งก็ไม่ได้ดอก.. ถูกๆผิดๆว่ากันไป แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้จังหวะหัวใจของมันครับ ดังที่เค้ากล่าวกันว่า History doesn't repeat itself, but it does rhyme.

ส่วนคนเทรดฟิวเจอร์สช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อย แรงเหวี่ยงมันเยอะครับ ซึ่งผมได้เคยแนะนำเทคนิคการเทรดบางส่วนไปในบทความ หัวใจของการลงทุนสไตส์ไวไว เมื่อเดือนมิ.ย. (จริงๆจะเรียกว่าเก็งกำไรก็คงไม่ผิด) ในวันนี้จึงอยากจะเสริมครับว่า นอกจากการกำหนดจุด stop loss ที่ว่าสำคัญแล้ว ต้องเลือกจุดที่จะ stop ให้ดีด้วย เช่น หากขาย (Short) SET50 Futures ที่ราคา 875 แต่กำหนดจุด stop loss ไว้ที่ 877 ผมว่ามันก็ใกล้ไปหน่อย หรือหากซื้อ (Long) ที่ 875 พอขึ้นไป 876.5 ก็รีบทำกำไรซะละ นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเลย ก็เร็วไปหน่อยครับ.. ซึ่งตรงนี้เส้นค่าเฉลี่ย (Moving average) น่าจะช่วยท่านได้ ลองใช้ดูครับ ไม่ยาก