สวัสดีครับ,
วันนี้ผมมีประเด็นที่น่าสนใจในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) มาเล่าให้ฟังเล็กน้อยครับ
เมื่อวานนี้ (29 กันยา) เป็นวันสุดท้ายของ SET50 futures ซีรี่ย์เดือนกันยา หรือ S50U15 ซึ่งหมายความว่านักลงทุนผู้ถือสถานะ S50U15 ทุกท่านจะต้องทำการ Roll over (ปิดสถานะเดิม และเปิดสถานะในสัญญาซีรี่ย์ถัดไป) ไปยังซีรี่ย์เดือนธันวา หรือ S50Z15 ภายในเวลา 16.30น. มิเช่นนั้นสัญญา S50U15 ของท่านจะถูกปิดสถานะโดยอัตโนมัติ (นักลงทุนนิยม roll over ไปยัง S50Z15 มากกว่า S50V15 ซึ่งเป็นซีรี่ย์เดือนตุลา เนื่องจากสภาพคล่องที่ดีกว่ามาก)
ข้อสังเกตของผมก็คือ หากดูตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยาที่ผ่านมา spread ระหว่างเจ้า S50Z15 และ S50U15 ที่นักลงทุนใช้ดูประกอบในการ Roll over ได้ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจาก -5.5 จนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ -20.9 เมื่อวันที่ 28 กันยา และกลับมาปิดสุดท้ายที่ -19.4 ในขณะที่ราคาตามทฤษฎีของ spread นั้นอยู่เพียงแถวๆ (บวก) 3 ถึง 5 จุดเท่านั้น
อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ทาง TFEX ได้ปรับอัตราหลักประกันของ SET50 Futures ขึ้นถึง 28% (ทั้งของลูกค้ารายย่อยและสถาบัน) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ตุลา นี้เป็นต้นไป จุดประสงค์ก็คือเพื่อลดการเก็งกำไรลง เพราะผู้ที่ลงทุน SET50 Futures ในตลาด TFEX ต้องกันเงินไว้มากขึ้นถึง 28% เพื่อวางหลักประกัน ตรงนี้ผมคิดว่าอาจจะส่งผลกระทบไปถึงตลาดหุ้นได้ ปริมาณการซื้อขายอาจจะลดลง รวมถึงความผันผวนก็อาจลดลงได้บ้างครับ (หมายเหตุ: เนื่องจาก SET50 Futures เป็นสัญญาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในตลาด TFEX โดยเฉลี่ยมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน การปรับจึงน่าจะส่งผลกระทบมากสุดถ้าเทียบกับสัญญาซื้อขายบนสินค้าอ้างอิงอื่นครับ)


ข้อสังเกตของผมก็คือ หากดูตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยาที่ผ่านมา spread ระหว่างเจ้า S50Z15 และ S50U15 ที่นักลงทุนใช้ดูประกอบในการ Roll over ได้ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจาก -5.5 จนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ -20.9 เมื่อวันที่ 28 กันยา และกลับมาปิดสุดท้ายที่ -19.4 ในขณะที่ราคาตามทฤษฎีของ spread นั้นอยู่เพียงแถวๆ (บวก) 3 ถึง 5 จุดเท่านั้น

สาเหตุหนึ่งของความห่างอันมโหฬารนี้อาจจะเป็นเพราะตลาด TFEX ของไทยนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพ (efficient) มากพอ (ซึ่งก็เป็นปกติในตลาดของกลุ่มประเทศเกิดใหม่) กอปรกับสภาพคล่องในการ roll over ที่ยังมีไม่เยอะหรือเยอะแค่บางช่วงเวลา จึงทำให้ราคาตลาดของ spread อยู่ห่างจากราคาทางทฤษฎีซะขนาดนั้น แต่อีกมุมหนึ่งก็สามารถตีความได้ครับว่า นักลงทุนกำลังคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดในช่วงไตรมาสหน้า (4Q15) อาจจะดูไม่ค่อยสดใสนัก จึงได้เฮโลไปเปิดสถานะ short ใน S50Z15 มากกว่า S50U15 ซะเยอะ จนทำให้ spread ห่างออกไปมาก ตรงนี้ก็ต้องระมัดระวังครับ
อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ทาง TFEX ได้ปรับอัตราหลักประกันของ SET50 Futures ขึ้นถึง 28% (ทั้งของลูกค้ารายย่อยและสถาบัน) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ตุลา นี้เป็นต้นไป จุดประสงค์ก็คือเพื่อลดการเก็งกำไรลง เพราะผู้ที่ลงทุน SET50 Futures ในตลาด TFEX ต้องกันเงินไว้มากขึ้นถึง 28% เพื่อวางหลักประกัน ตรงนี้ผมคิดว่าอาจจะส่งผลกระทบไปถึงตลาดหุ้นได้ ปริมาณการซื้อขายอาจจะลดลง รวมถึงความผันผวนก็อาจลดลงได้บ้างครับ (หมายเหตุ: เนื่องจาก SET50 Futures เป็นสัญญาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในตลาด TFEX โดยเฉลี่ยมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน การปรับจึงน่าจะส่งผลกระทบมากสุดถ้าเทียบกับสัญญาซื้อขายบนสินค้าอ้างอิงอื่นครับ)


No comments:
Post a Comment