Wednesday, August 27, 2014

Chandelier Stop

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 27 สิงหาคม 2557

ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังคงไต่ผาสูงชันขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งในวันนี้ แต่ผมกลับรู้สึกว่าหุ้นขนาดใหญ่กลับไม่ค่อยขึ้นมากเท่าไหร่ เป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็กซะมากกว่าที่ช่วยกันดันดัชนี (จำได้ว่าอาทิตย์ก่อนหุ้นอะไรนะ ABCDE ตัวเดียวมีผลทำให้ดัชนีในวันนั้นบวก 2-3 จุด!) ซึ่งตรงนี้ก็ไปสอดคล้องกับสัญญาณเตือนที่นักวิเคราะห์ของเราแจ้งมาครับว่าปริมาณการซื้อขายของหุ้นนอก SET100 ณ ขณะนี้อยู่ที่ 43% ของปริมาณการซื้อขายทั้งตลาดแล้วนะ! ซึ่งนี่เป็นระดับที่สูงผิดปกติ บอกเลย เพราะทุกครั้งที่ตัวเลขนี้เกิน 40% ตลาดจะมีการพักตัวหรือปรับฐาน เว้นอยู่ครั้งเดียวเมื่อเดือนมกราปี 2012 เพราะตอนนั้นตลาดยังไม่แพงมาก (ดูรูปประกอบ)




อย่างไรก็ดี ตรงนี้ก็เป็นแค่สัญญาณเตือนครับ ไม่ได้บอกว่าหุ้นจะต้องลงกระฉูดอย่าเพิ่งตกใจ เอางี้ละกัน สำหรับนักลงทุนเล่นรอบ นักเก็งกำไร หรือนักใช้ใจเทรด TFEX ผมขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้า Trailing Stop หรืออีกชื่อหล่อๆว่า Chandelier Stop
  
(หลายท่านคงรู้จักดีอยู่แล้ว) หลักการของเจ้า Trailing Stop หรือ Chandelier Stop ก็ไม่มีอะไรมากครับ เพียงแค่หากท่านมีหุ้นก็ถือหุ้น หากมี Futures ก็ถือ Futures ต่อไปตราบเท่าที่ยังไม่หลุดจุดที่เราตั้งไว้ (โดยไม่ต้องสนที่คนคาดว่าตลาดจะขึ้นหรือจะลงเพียงใด) และเราก็ปรับจุดนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามดัชนีหรือหุ้นที่เพิ่มขึ้น.. พูดง่ายๆ มันเป็นจุดที่เอาไว้ protect gains นั่นละครับ
   
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณซื้อ S50U14 ได้ที่ราคา 1020 ในขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1049 คุณก็อาจจะตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 1040 หมายถึง ตราบใดที่ S50U14 ยังไม่หลุด 1040 เราก็ถือเจ้า S50U14 ต่อไปเรื่อยๆ ยังไม่ขายทำกำไร หากในวันต่อมาเจ้า S50U14 ขึ้นต่อไปที่ 1060 คุณก็อาจจะขยับ Trailing Stop ตามมาที่ 1050 จุด (แม้เจ้า S50U14 จะแกว่งผันผวนเพียงใดขอเพียงแต่ไม่หลุด 1050 คุณก็ถือต่อ ถ้าหลุดก็ขาย) และถ้าวันถัดมาเจ้า S50U14 ยังขึ้นต่ออีก คุณก็แค่ขยับ Trailing Stop ตามไปอีกก็แค่นั้น

เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยลดโอกาสในการตื่นตกใจขายหมูของคุณไปได้เกือบครึ่งแล้วละครับ ลองดูนะ ไม่ยาก 

Wednesday, August 13, 2014

นอกกรอบ

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2557

ผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาวกันไปกลับมาเริ่มงานใหม่ ตลาดหุ้นไทยก็ขึ้นให้ชื่นใจไล่ตามตลาดภูมิภาคในช่วงที่ปิดไปอย่างน่าเกรงขาม จากรูป จะเห็นว่า SET Index วิ่งเลี้ยงตัวสวยในกรอบขาขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีและก็ยังไม่มีท่าทีจะหลุดนอกกรอบให้วุ่นวายใจ แถมยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (สีฟ้า) ได้อย่างสวยหรูอีก แบบนี้ก็คงไม่ต้องสืบละนะครับว่าเชียลงไปก็มีแต่ปวดร้าว เว้นเสียแต่มันจะหลุดกรอบขาขึ้นนี้แบบหมดจดเท่านั้น   



ในขณะที่ เหลือบไปมองเจ้ากองตุน เอ้ย กองทุนไทย ก็แหมขยันออกกันจัง Trigger funds เนี่ย ผุด ผุด ผุด รวมๆกันในช่วงนี้ก็กว่า 3 พันล้านบาทเข้าให้ ตลาดหุ้นไทยเลยเหนียวซะยิ่งกว่าตังเมซะอย่างนั้น



ถัดมาลองมาดูตัวเลขสัดส่วนการซื้อขายของฝรั่งกันครับ จะเห็นว่าลดลงพรวดในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ (จาก 30.1% ในไตรมาส 1 เป็น 18.9% ในไตรมาส 3) ในขณะที่รายย่อยอย่างเราๆ นั่นละครับ ตัวดี ซื้อขายกันจัง สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเห็นๆ (จาก 47.5% ในไตรมาส 1 เป็น 61.7% ในไตรมาส 3) บ้างก็เลยเอามาสรุปกันว่าฝรั่งเค้ารอจังหวะเป้งๆอยู่ตลาดหุ้นไทยลงเมื่อไหร่ สอยแหลกแน่... มันก็เลยไม่ลงซักทีนะซิ ฮือๆ

สุดท้ายของบทความนี้แต่ไม่ท้ายสุด ผมนำเรื่องของเพดานการคุ้มครองเงินฝากมาฝากครับ เพราะว่ามันกำลังจะถูกลดลงครึ่งหนึ่งจากที่คุ้มครอง 50 ล้านบาท เหลือ 25 ล้านบาทในวันที่ 11 สิงหาคมปีหน้า และจะเหลือคุ้มครองเพียง 1 ล้านบาท ในวันที่ 11 สิงหาคมอีกปีถัดไป ตรงนี้ก็เป็นที่คาดการณ์กันว่าอาจจะมีเงินบางส่วนวิ่งวนไปเข้าสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่หุ้น (เงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 10 ล้านล้านบาท ถ้าปีหน้าลดการันตีลงมาครึ่งหนึ่งก็อาจจะมีสภาพคล่องราว 5 ล้านล้านบาทที่จะวิ่งไปหาสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น)



บทสรุปของผมก็คือ ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้น่าจะยัง resilient อยู่ครับ หมายถึง แม้จะมีปัจจัยภายนอกและภายในมากระทบทำให้หุ้นตกซักเพียงใด หุ้นไทยก็น่ามีแรงซื้อเข้ามาช่วยพยุงอยู่ได้ตลอด..แต่จะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานซักแค่ไหน อันนี้ก็ต้องติดตามตอนต่อไปละครับ!