สวัสดีครับ,
และแล้วยุคซิ่งกระดิ่งแมวที่ได้เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนก่อนก็ (น่าจะ) ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดสะท้านเมืองที่น่าสลดใจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำไมผมถึงพูดแบบนั้น? เพราะหากเราไปดู PE ของตลาด MAI เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ได้เคยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 91 เท่า ณ ปัจจุบันได้ลดลงมาเหลือ 55 เท่า ในขณะที่ตัวดัชนีเองก็ได้ตกมาถึง 30% จากจุดสูงสุด ซึ่งหากลองเทียบกับ PE ของ SET ที่จากต้นปีอยู่ที่ 22 เท่า และลดลงมาเหลือ 18 เท่าในปัจจุบัน โดยที่ตัวดัชนีลงมา 15% นั้น แปลว่าดัชนี MAI ลงมามากกว่าดัชนี SET ถึง 2 เท่าครับ

อย่างไรก็ดี ด้วยผลประกอบการที่เห็นจนถึงตอนนี้ ผมเชื่อว่าการลงหนักของหุ้นซิ่งกระดิ่งแมวในตลาด MAI นั้นไม่ได้เป็นการลงด้วยพื้นฐานครับ เพราะกำไรของบริษัทก็ยังดีอยู่ แต่เป็นการลงเพราะการเก็งกำไรในหุ้นนั้นลดลงมากกว่า นักลงทุนกำลังให้ราคาของการเก็งกำไรลดลง ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมา และ PE ของหุ้นก็ลดลงตาม ซึ่งหากถามว่าแล้วลงพอแล้วหรือยัง? ตรงนี้ยังตอบไม่ได้ครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนยังเชื่อมั่นในผลประกอบการในอนาคตอยู่หรือไม่ ถ้าเชื่อมั่น ก็โอเค แต่ถ้าไม่ อาจจะมีเสียวต่อ
ในแง่ของภาพใหญ่ หากย้อนกลับไปดูกราฟ SET รายเดือน จะเห็นว่าดัชนีได้ลงมาแกว่งแถวแนวรับสำคัญที่เคยให้ไว้ที่ 1375 พอดีครับ (ระดับ 38.2% ฟิโบนาชี่) ซึ่งผมได้ลองลากเส้น Simple moving average ระยะเวลา 50 เดือน (เส้นสีเหลือง) มาประกอบดูเพื่อพิจารณาว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ก็พบว่าระดับแนวรับใหม่ก็อยู่ไม่ไกลจากแนวรับสำคัญเดิมมาก คือที่ 1360 ครับ ซึ่งแนวนี้น่าจะช่วยค้ำดัชนี SET ให้ยืนเท้งเต้งได้ไปอีกซักระยะหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเซอร์ไพรส์อะไรออกมาอีก อย่างไรก็ดีด้วยสถานการณ์ในขณะนี้ ผมอยากแนะนำให้นักลงทุนทุกท่านเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ลดการเก็งกำไรที่ไม่จำเป็นลง และมองไปที่ผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว.. แล้วเราจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ ไปด้วยกันครับ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ
