สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2556
สัปดาห์ที่ผ่านมามีนักลงทุนหลายท่านได้บอกกับผมว่าชอบข้อมูลในส่วนของ Flows
Fund เอ้ย Fund Flows (:P) วันนี้เลยนำข้อมูลมาอัพเดทให้ครับ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาฝรั่งเป็นยอดซื้อสุทธิเบาๆในตลาดหุ้นไทย
10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, หนักหน่อยใน
Philippines 164 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ขายใน
Indonesia 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความจริงผมเริ่มรู้สึกว่าตลาดหุ้นปีนี้มันชักจะเล่นยากขึ้นไปทุกที (เพิ่งจะรู้สึกเรอะ!) เรื่องที่ไม่มีเหตุผลมักเกิดขึ้นได้เสมอๆ ดังเช่นช่วงเวลา 4 โมงเย็นของทุกวัน
ที่ตลาดหุ้นมักถูกทำมิดีมิร้ายอย่างไม่ทราบสาเหตุโดยกลุ่มคนต้องสงสัยที่ผมขอขนานนามว่า
“The 4 PM-Gang” หรือชื่อเป็นภาษาไทยว่า “เดอะแก๊งค์สี่โมง”.. “ไม่รู้อัดอั้นตันใจมาจากไหนสี่โมงทีไรหุ้นดิชั้นโดนเสยทุกที!”
สาวน้อยเพียงดอยท่านหนึ่งบ่นงุบงิบ
.. “เห็นเนิบๆมาทั้งวังไม่น่ามีอังไล วอลุ่งก็น้อยขนาดนั้น
ไหงทิ้งพรวดๆๆไม่ให้อั๊วะตั้งตัวเบย” อาม่าอินเทรนกล่าวอย่างหัวเสีย
ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าในต่างประเทศจะมีช่วงเวลาต้องระวังแบบเมืองไทยหรือไม่
แต่เรื่องของเรื่องก็คือฝรั่งเค้าก็แปลกใจกับช่วงเวลา 4 pm
ไม่น้อยไปกว่าคนไทย.. หยั่งล่าสุดเมื่อวานก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมเองก็พยายามหาสาเหตุต่างๆนานามาอธิบาย เช่น นักลงทุนขายเพื่อลดความเสี่ยงรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่
30-31 กรกฎาคม รวมถึง ECB meeting ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ไง
แล้วก็มี การเมืองไทย! เพราะเค้าจะเปิดประชุมสภาในอีกวันสองวันนี้แล้ว ก็กลัวว่าจะมีชุมนุมอะไรรุนแรง (แม้ปัจจัยการเมืองจะไม่ได้กระทบตลาดหุ้นในระยะยาว แต่หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมา
มันก็มีผลในระยะสั้นนะ) และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องโครงการ 2 ล้านล้าน
ถ้าไม่ผ่านนิ catalyst ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยก็แทบจะไม่เหลือ (exports ก็หด การบริโภคกำลังซื้อก็ลด
การลงทุนภาคเอกชนก็ถดถอย) ดูญี่ปุ่นซิ เค้ามีรถไฟความเร็วสูงตั้งกะปี 1964 จึงทำให้เกิดการพัฒนา
กระจายความเจริญของสังคมเมืองสู่จังหวัดต่างๆ (Urbanization) และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้ว.. ส่วนไทย
ประเทศกำลังพัฒนา อดีตเสือตัวที่ห้าของเอเชีย
และเป็นผู้ที่ถูกคาดหวังว่าจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการเชื่อมโยง (Connectivity)
เมื่อเกิด
AEC ก็ตามหลังญี่ปุ่นอยู่ 50 ปีเองง..
ตรงนี้ถามว่าเราเองมีตัวอย่างที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมไหม..
มีครับ ลองดู GDP เมื่อปี 2003-2006 การเจริญเติบโต GDP เชียงใหม่เทียบกับลำปางพบว่า GDP เชียงใหม่พุ่งสูงกว่าประเทศปรี๊ดๆ
เพราะในปี 2003 เป็นปีที่มี Low-cost
airline ที่เชียงใหม่เป็นครั้งแรก! พอมีระบบการบินภายในก็ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
เกิดการสร้างงาน ความเจริญก็กระจาย ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเป็นลำดับ
เอ้านอกเรื่องไปตั้งไกล ขอกลับมาที่เดอะแก๊งค์สี่โมงครับ เอาเป็นว่า เวลาสี่โมงเย็นของทุกวันทำการตลาดหุ้นไทย..
ระวังหลังกันให้ดีนะทุกคน!!
เจ๋งมากชอบ ที่ใดมีคนที่นั่นมีเงิน
ReplyDeleteขอบคุณครับ^^
Delete