สวัสดีครับ,
ในฐานะนักค้าหลักทรัพย์ที่ดูแลสินค้าประเภทตราสารอนุพันธ์เป็นหลัก ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงตัวเลข net short ใน SET50 Index Futures ของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาที่เป็นจำนวนถึง 23,373 สัญญา หลายคนค่อนข้างกังวลกับตัวเลขนี้ครับ เพราะว่ามันดูสูงผิดปกติในแง่ของจำนวนสัญญา แต่อย่าลืมครับว่า ตัวคูณดัชนีได้ถูกปรับลดลงจาก 1,000 บาท ไปเป็น 200 บาท ต่อ 1 จุด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 แปลว่าถ้าเทียบกับขนาดสัญญา SET50 Index Futures เดิมแล้ว ตัวเลข 23,373 ต้องถูกหาร 5 ลงไป อีกทั้งถ้าลองคำนวณออกมาเป็นตัวเงินจะพบว่ามูลค่าอยู่ที่ราว 4.6 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจอะไรถ้าเราเห็นฝรั่งเป็นยอดขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อวันเท่ากับตัวเลขนี้ ส่วนตัวแล้วผมกลับคิดว่าฝรั่งเค้าทำเพียงเพื่อ hedge positions มากกว่าเพราะในวันถัดมา (29 พฤษภาคม) มีการทำ MSCI Rebalancing ครับ

เอาละไขข้อสงสัยไปแล้ว วันนี้ผมเลยลองนำรูปที่น่าสนใจมาให้ดูครับ ด้านบนรูปซ้าย เป็นการชี้แนวโน้มให้เห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่ Flows (แท่งสีน้ำเงิน) เป็นยอดขายสุทธิ ตลาดหุ้น (เส้นสีส้ม) ก็มักจะมีแนวโน้มที่จะลดลงตามซึ่งพอหันมามองรูปขวาแล้วก็น่ากังวลใจครับ เพราะ Flows ที่เข้าตลาดเกิดใหม่กับตลาดพัฒนาแล้วได้มาพบกันที่ทางแยก (อีกครั้ง) ซึ่งประเมินเบื้องต้นก็มีแนวโน้มที่เส้นสีแดงนั้นจะตัดเส้นสีดำลงมา ในขณะที่เส้นสีดำน่าจะยืนยื้อออกด้านข้าง นั้นหมายความว่า Flows น่าจะค่อยๆ ออกจากตลาดเกิดใหม่ (รวมทั้งไทย) ต่อไป โดยหมุนมาเข้าตลาดพัฒนาแล้วแทน แต่ก็คงเป็นไปด้วยอัตราเร่งที่ลดลงนะครับ (จากกราฟสีดำก่อนหน้าที่ขึ้นมาค่อนข้างชัน) ตรงนี้เลยพอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่าภาพตลาดเกิดใหม่จากนี้ไปคงจะไม่ค่อยสดใสนัก ส่วนตลาดพัฒนาแล้วน่าจะทรงๆ หรือซึมขึ้นต่อไปได้

อย่างไรก็ดี หากลงเจาะลงมาเฉพาะในตลาดหุ้นไทยแล้ว จะเห็นว่านักลงทุนต่างชาติได้เริ่มขายหุ้นไทย (รอบหลัง) ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2013 และก็ขายมากกว่าซื้อมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็สอดคล้องกับกราฟรูปขวาด้านบน แต่ที่น่าสนใจก็คือนักลงทุนสถาบันในประเทศครับ ที่พลิกมาเป็นผู้ซื้อสุทธิที่แข็งแกร่งที่ช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยให้ยืนเท้งเต้งได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้ QE จากอเมริกาจะค่อยๆ ลดจนหมดไปเมื่อปลายปีก่อน ผมเลยประเมินว่าทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยลงแรงๆ นักลงทุนสถาบันในประเทศนิละครับที่จะเข้ามาช่วยประคองไว้ ซึ่งคงทำให้ตลาดหุ้นไทย resilient (ฟื้นไข้ได้เร็ว) กว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตรงนี้ก็น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยวิ่งอยู่ในกรอบ sideways ไปซักพักจนกว่าจะมีสัญญาณดีใหม่ๆ เพื่อดันดัชนีขึ้นไปต่อ หรือมีสัญญาณร้ายใดที่รุนแรงจนทำให้นักลงทุนสถาบันในประเทศไม่เชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยครับ
No comments:
Post a Comment