สวัสดีครับ,
ต้องยอมรับครับว่าตลาดหุ้นทั่วโลกได้เข้าสู่ risk-off mode เป็นที่เรียบร้อย โดยประเด็นที่เป็นกังวลกันก็หนีไม่พ้นเรื่องปัญหาหนี้กรีซ และฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน ทั้งนี้ทั้งนั้นความกลัวได้สะท้อนมาถึงตลาดหุ้นไทยในรูปของความห่างระหว่างดัชนี SET50 futures กับ SET50 Index ที่เราเรียกว่าค่า basis ด้วยครับ ซึ่งหากดูราคาปิดเมื่อวานจะพบว่าดัชนี SET50 futures ซีรีย์ U มีราคาน้อยกว่า SET50 Index อยู่ถึง 18.93 จุด (เทียบกับในทางทฤษฎีที่ควรห่างเพียงประมาณ 7-8 จุด) ซึ่งถือว่ามากผิดปกติ โดยในวันนี้เปิดตลาดเช้ามาช่วงความห่างก็ยังคงอยู่ที่ระดับนั้น แปลว่าเราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้นนะครับ

ถ้ายังจำกันได้ในบทความเมื่อเดือนก่อน ผมได้บอกถึงจุดชี้เป็นชี้ตายของตลาดหุ้นไทยในเชิงเทคนิคไปว่าอยู่ที่ 1460 ซึ่งเป็นเส้นแนวรับสำคัญสำหรับภาพระยะกลาง เพราะใช้เส้นลากยาวตั้งแต่ปี 2008 ..ผ่านไป 3 สัปดาห์ จุดชี้เป็นชี้ตายนี้ได้ถูกปรับขึ้นมาเป็น 1475 ครับ แต่นัยตรงนี้ไม่ได้แปลว่าหาก SET Index หลุดระดับ1475 ลงไประหว่างวันแล้วจะจบข่าวนะครับ การแกว่งหลุดระหว่างวันเกิดขึ้นได้หากดัชนีกลับมาปิดสิ้นวัน สิ้นสัปดาห์ หรือสิ้นเดือนได้เกิน 1475 ซึ่งนั่นแปลว่าภาพใหญ่จะยังไม่เปลี่ยน แนวโน้มขาขึ้นในกรอบนี้จะยังคงดำเนินต่อไป และจุด 1475 จะกลายเป็นจุดซื้อที่สำคัญสำหรับนักลงทุนผู้ใจกล้าด้วยครับ

อย่างไรก็ดีมี 2 สัญญาณเตือนในภาพใหญ่ที่น่าติดตามครับ สัญญาณแรกได้เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว นั่นคือ Negative Divergence (เส้นสีชมพู) ระหว่างดัชนี SET กับ RSI Indicator ซึ่งมันได้บอกเราว่าการขึ้นรอบก่อนนั้นเป็นของปลอม ดัชนีจะไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ซึ่งดัชนีก็ได้ปรับตัวลงมาจริงๆ ส่วนสัญญาณที่ 2 คือการไม่เกิดสัญญาณครับ นัยหมายถึงการที่ทั้งดัชนี SET และ RSI Indicator ทำ lower high เหมือนกัน แปลว่าการลงรอบนี้มีเสียวสันหลังแล้วละ จุดที่วัดกันก็คือจุด 1475 นั่นละครับ หากสิ้นเดือนนี้ยังปิดเหนือกว่าได้ ก็ยังไม่มีอะไรต้องกังวล
สุดท้าย อยากให้จับตาดูค่าเงินบาทเทียบ USD ไว้หน่อยครับ เพราะเฮียแกกำลังทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 6 ปี และกราฟกำลังฟอร์มตัวสวยเชียว แปลว่าโอกาสอ่อนต่อมีสูง ยังไงลองพิจารณาประกอบถึงบริษัทที่ได้รับผลดีผลเสียจากตรงนี้ด้วยนะครับ พึ่งระลึกไว้เสมอว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาส แล้วชีวิตการลงทุนท่านจะได้สบายๆ ชิลๆ มากขึ้น โชคดีครับ

No comments:
Post a Comment