Wednesday, March 9, 2016

ระมัดระวัง

สวัสดีครับ,

ตลาดหุ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นมาได้ดีแทบจะเกือบทั้งโลก แต่เป็นตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนอย่างไทยและอินโดนิเซียที่ขึ้นมาได้ดีกว่าใครเพื่อน โดยผลตอบแทนเราทั้งคู่ติดอันดับตลาดหุ้นที่ผลตอบแทนดีที่สุด 10 อันดับแรกของโลกนับจากต้นปีครับ ทั้งนี้สาเหตุน่าจะไม่ใช่เพราะภาพพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ แต่เป็นเรื่องของ Fund flows ที่ไหลกลับเข้ามาในภูมิภาคนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวมากกว่า


ค่าเงินบาทเองก็แข็งค่าขึ้นมาค่อนข้างมากเทียบกับ USD โดยล่าสุดอยู่ที่ 35.35 เทียบกับเมื่อต้นปียังอยู่ที่ 36 อยู่เลย ถือว่าแข็งเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียเลยละครับ


ถึงจุดนี้นักลงทุนหลายท่านคงเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมเงินไหลกลับเข้ามาในอาเซียนรวมถึงบ้านเราอย่างมีนัยสำคัญทั้งๆ ที่ภาพปัจจัยพื้นฐานยังไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมาย? ผมคิดว่าแบบนี้ครับ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำทั่วโลก รวมถึงเมื่อเร็วๆ นี้ที่บางประเทศถึงขนาดกดดอกเบี้ยลงไปติดลบอีก ทำให้สุดท้ายเงินก็ต้องมีที่ไป (เหมือนสายน้ำ เปิดก๊อกกักไว้ในโอ่งนานๆ เดี๋ยวก็ต้องล้น) ด้วยที่ตลาดหุ้นไทย underperform หุ้นโลกมาก่อนหน้านี้หลายปี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5แม้จะต่ำแต่ก็ยังสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศ (ถ้าไปดูผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยล่าสุดอยู่ที่ 1.9ซึ่งถือว่าต่ำมาก ไม่เคยเห็นต่ำขนาดนี้มาก่อน แปลว่าเงินไหลเข้ามาซื้อเยอะจริงๆ) เหตุผลเหล่านี้น่าจะพอดึงดูดให้เงินไหลกลับเข้ามาเก็งกำไรได้บ้างแม้อาจจะเป็นเพียงระยะสั้นก็ตามครับ 


อย่างไรก็ดี ด้วยปัจจัยพื้นฐานและภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ (แถมอาจถูกปรับประมาณการลงด้วยซ้ำ จากที่ท่านผู้ว่าแบงค์ชาติให้สัมภาษณ์เรื่อง GDP growth ล่าสุด) สุดท้ายแล้วนักลงทุนต่างชาติก็จะเริ่มตระหนักครับว่าเก็งกำไรมากไปกว่านี้อาจจะเจ็บตัวได้ กำไรก็ได้มาระดับนึงแล้วเริ่ม unwind positions บ้างดีไหม? (อาจจะไม่ถึงขนาด short หนักเลยทีเดียวเว้นแต่จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น) อีกทั้งภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะหลังจากจีนประกาศตัวเลขส่งออก -25.4%YoY ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งนับว่าแย่ที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2009 สรุปเลยก็คือผมคิดว่าควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้นในช่วงนี้ครับ   


No comments:

Post a Comment