สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2556
สถานการณ์ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีหลายเรื่องให้ลอยคอรอลุ้น ผลลัพธ์ที่ออกมาก็มีทั้งผิดหวังสมหวังจีรังบ้างไม่ยั่งยืนบ้าง แต่มีอยู่
2 เหตุการณ์สำคัญที่ผมอยากทบทวนให้ฟังครับ
1. เมื่อคืนวันพุธที่ 18 กันยายน 2556
วันที่ธนาคารกลางสหรัฐประกาศคงมาตรการอัดฉีดเงิน (QE) มูลค่า 85,000
ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือนต่อไป พร้อมกับปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯปีนี้เหลือ
2-2.3% จาก 2.3-2.6% และ 2.9-3.1% จาก 3-3.5%
ในปีหน้า ข่าวนี้ถือว่า Surprise เพราะนักวิเคราะห์และฝูงชนส่วนใหญ่คาดกันว่า
Fed จะลดขนาดเงินอัดฉีดอย่างน้อยก็ 1-2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผลก็คือตลาดหุ้นไทยกระหน่ำครับ
กระหน่ำขึ้น ดัชนีเปิดกระโดดทันทีในวันถัดมาและปิดบวกอย่างสวยหรูไป 49.93 จุด หรือ
3.47%
แต่หลังจากนั้น เหมือนดั่งสวรรค์แกล้ง ราว 2 สัปดาห์ให้หลังถัดมา หุ้นไทยกลับไถๆลงมาเรื่อยๆ
จนหลงจ้งแล้วลบกว่า 100 จุด ปิดไปที่ 1383.16 ในวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556
ความกังวลเรื่องลด QE หายไป แล้วทำไมมูลค่าหุ้นไทยถึงหายตาม?
2. ช่วงเช้าเวลาดี 11.00 น. ของวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2556
วันที่เราจะได้รู้กันว่ารัฐบาลสหรัฐจะโดนชาวดัตช์ Shutdown หรือไม่?
กลัวมั้ยละครับ เสียวมั้ยละครับ... มักๆ... บ่องตง... พอผลประกาศออกมาเป็น Partially
Shutdown ปุ๊ป (คือปิดในบางหน่วยงาน) หุ้นไทยก็ลงกระป๊าปๆๆ ฟิวเจอร์สก็ลงปู๊ดๆๆ
ในช่วง 10 นาทีหลังประกาศ
แต่หลังจากนั้นกลับขึ้น...
บทสรุปของผมก็คือ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับความกังวลเหล่านี้มากครับ
เพราะแม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างที่คาด เหนือคาด หรือผิดคาด
แท้จริงแล้วเราต้องกลับสู่ความเป็นจริงที่ว่า แล้วมันเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานแค่ไหน
มันทำให้กำไรของบริษัทที่เราลงทุนลดลงหรือเปล่า? ซึ่งความจริงแล้วในแง่ตัวเลขเศรษฐกิจของบ้านเราถือว่าค่อยๆดีขึ้นด้วยซ้ำ
ตัวเลขส่งออกไทยในเดือนสิงหาคมกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยโต
3.9% YoY จากที่หดตัว 1.48% YoY ในเดือนกรกฎาคม และหลงจ้งทำให้ตัวเลขดุลบัญชีเดือนสะพัด
(Current account) กลับมาเป็นเกินดุล (Surplus) อย่างสวยหรูที่
1.2 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
เคยได้ยินคำว่าตลาดหุ้นชอบปีนบันไดแห่งความกังวล (Wall of
Worries) ไหมครับ?
ว่าที่จริง ผมกลับรู้สึกชอบเวลาที่มีความกังวลเยอะๆ เพราะนั่นหมายถึงทุกคนได้ตระหนักถึงผลลัพธ์ของเหตุการณ์ร้ายๆที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว แต่หากเมื่อใดที่ความกังวลหายไปหมดเกลี้ยง เมื่อนั้นอาจถึงเวลาที่เรา..
ต้องหันไปปลูกผักทำสวนกันซักพักแล้วละครับ