สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2556
ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดๆเข้ามาอีกหน่อย~ กับวัน D-Day
เรื่องขยายเพดานหนี้สหรัฐฯที่จะรู้ผลในช่วงปลายสัปดาห์หน้า
เพราะถ้าขยายไม่สำเร็จ โอกาสที่รัฐบาลสหรัฐฯจะผิดนัดชำระหนี้ (Selective Default) จะมีสูงมาก ซึ่งหากเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อวงการตลาดทุน
ตลาดเงิน และระบบการชำระเงินทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..
เมื่อระบบการชำระเงินมีปัญหา การค้าระหว่างประเทศก็จะหยุดชะงัก และเราอาจได้เห็นตลาดหุ้นทั่วโลกลดกระหน่ำ
Grand sales อีกครั้ง..
แต่เดี๋ยวก่อน! Morgan Stanley บอกว่าโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐฯจะผิดนัดชำระหนี้คือ
0% นะครับ เย้ๆ ส่วนตัวผมไม่ขอเดา แต่ก็ไม่คิดว่านักการเมืองอเมริกาจะสะบะเลเฮห้าถึงขนาดทำลายประเทศตัวเองขนาดนั้น
แต่ก็อย่าชะล่าใจไปละครับ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เพราะเมืองไทยมีปาปริก้า
ถัดจากเรื่องนี้ สิ้นเดือนก็มีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่คนกลัวกันหนักกันหนาว่า
จะถอนๆๆ มาตรการอัดฉีดเงิน ส่วนตัวผมเดาว่ารอบนี้น่าจะยังไม่ลด QE ครับ ก็แหม
การประชุมครั้งที่แล้วเพิ่งผ่านไปเดือนกว่า ตัวเลขเศรษฐกิจคงยังไม่เปลี่ยนไปมากถึงขนาดทำให้ต้องเปลี่ยนใจมาลดคราวนี้กระมัง
(คราวที่แล้วก็ไม่ลด).. แต่ท้ายสุดแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเยี่ยงไร อย่าลืมครับว่า
ปัจจัยพื้นฐานต่างหากที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของสินทรัพย์นั้นๆ
สภาพคล่องที่อัดฉีดเป็นเพียงตัวเพิ่มขนาด (Magnitude) เท่านั้น^^
ไม่เชื่อลองดูรูปข้างล่างสิครับ
ด้านสถานการณ์ในตลาดอนุพันธ์ก็ยังทรงๆ อากงงงงวย เพราะสามวันดีสี่วันไข้ แบบนี้แหละครับ ที่เรียกว่าเรากำลังปีนบันไดแห่งความกังวลกันอยู่.. ที่น่าสนใจก็คือราคาของ SET50 Index Futures ยังนำ SET50 Index แบบเบาๆ ซึ่งถือเป็นสัญญาณชี้อย่างหนึ่งว่าตอนนี้ตลาดไม่ได้แย่นะ ยังไหวนะ โดยศัพท์ในวงการที่ใช้เรียกสภาวะตลาดแบบนี้ก็คือ
CONTANGO ครับ