สวัสดีครับ,
ตลาดหุ้นกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานำโดยกลุ่มพลังงานเนื่องจากราคาน้ำมันที่เหมือนจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง (อย่างน้อยก็ในระยะสั้น) ซึ่งพอไปดูตัวเลขแล้วก็พบว่าน่าจะเป็นนักลงทุนต่างชาตินิแหละครับที่ช่วยกันถีบหุ้นพลังงานขึ้นมากันยกใหญ่ เพราะตัวเลขเป็น Net buy ในตลาดหุ้นไทยถึง 9.8 พันล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว

แต่หากไปดูตัวเลขทั้งเดือนเมษา (MTD) จะพบว่าพวกเราเองนิละครับที่ขายเอาๆ เพราะนักลงทุนรายย่อยเป็นยอด Net sell ถึงกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ผู้ที่เป็น Net buy เกลี่ยๆ กันไปคนละ 8 พันกว่าล้านบาท ระหว่างนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบันและพอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ ที่ต้องระวังก็คือพอร์ตบริษัทหลักทรัพย์นิละครับที่กลับมาซื้อกว่า 8 พันล้านบาทในเดือนนี้ (เป็นยอด Net buy ทุกวัน!) แต่นั่นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาขายหนักในเดือนที่แล้วเกือบ 9 พันล้านบาท (กุมภา -1,631.09 ล้านบาท; มกรา +8,260.48 ล้านบาท) ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะกลับมาขายอีกครั้งในเร็วๆ นี้เพราะพวกเค้าไม่ค่อยชอบที่จะถือหุ้นนานนักหรอก

จะว่าไปแล้วเหมือนผมจะไม่ค่อยตื่นเต้นกับตลาดในช่วงนี้เท่าไหร่นักครับ (และก็ยังไม่เชื่อว่าราคาน้ำมันจะขึ้นต่อได้แรงติดจรวดในเร็ววันนี้) ความจริงก็เพราะว่าดัชนี SET ได้ขึ้นมาพอสมควรแล้วจากจุดต่ำสุดที่ 1485 เมื่อสิ้นเดือนมี.ค.จนถึง ณ ระดับปัจจุบันที่ 1567 ก็ราว 5% กว่าในขณะที่ยังไม่มีพัฒนาการของกำไรบริษัทจดทะเบียนมากเท่าใดนัก พอดีกับที่เริ่มเห็นนักลงทุนไทยบางส่วนเริ่มที่จะหาช่องทางกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้น (เงินบางส่วนอาจไหลออก) ตีความได้นัยหนึ่งว่าเค้าคงเริ่มเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้น่าดึงดูดเท่าในอดีตแล้ว อีกทั้งการที่เทรนด์คนวัยทำงานอายุ 20 ปลายๆ ถึง 30 ต้นๆ (Gen Y) ที่เริ่มลาออกจากงานมีมากขึ้นเพื่อมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว ผมเลยค่อนข้างสงสัยว่าหากภาคธุรกิจจริงคนหนุ่มสาวทำงานน้อยลงเพราะหันไปหวังรวยจากการลงทุนหรือเล่นหุ้นมากขึ้นแล้ว ผลิตภาพที่แท้จริง (Productivity) คือหมายถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียน จะโตได้แรงและยั่งยืนได้อย่างไร (ยิ่งบ้านเรามีปัญหาขาดแคลนแรงงานอยู่ด้วย) ซึ่งสุดท้ายแล้วถ้ากำไรของบริษัทจดทะเบียน (ซึ่งเป็นเจ้ามือที่แท้จริงของหุ้น) ไม่ไปไหน ราคาหุ้นในระยะยาวก็คงขึ้นได้ยาก เพราะลำพังสภาพคล่องเพียงอย่างเดียวก็คงหนุนหุ้นได้ไม่นาน และสุดท้ายต้องมีวันหมด แล้วพวกที่ลาออกจากงานดังกล่าวสุดท้ายก็อาจต้องกลับมาทำงานใหม่ เป็นวงจร ก็เป็นได้ครับ