สวัสดีครับ,
เปิดศักราชใหม่ 2559 มา
ตลาดหุ้นไทยก็โชว์ความผันผวนให้เห็นซะตั้งแต่ต้นปีครับ ดัชนี SET ได้ลงไปทำจุดต่ำสุดของปีเมื่อวันที่
11 ม.ค. ที่ 1221 (จากราคาปิดสิ้นปี 2558 ที่ 1288)
แล้วก็ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1260 ได้อีกครั้งเมื่อเช้าวันที่
13 ม.ค. อย่างไรก็ดี ผมไม่คิดว่าจะมีปีไหนที่ตลาดหุ้นไม่ผันผวน มันผันผวนทุกปี
แต่แค่ปีนี้มาแซงแรงโค้งซะตั้งแต่ต้นปีเท่านั้นเองครับ
ความจริงแล้ว หากไปดูในตลาด Futures นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสะสมสุทธิ
SET50 Index Futures ถึง 7 วันติดในช่วง 30 ธ.ค.2558 – 11 ม.ค.2559 รวมเป็นยอดกว่า 4.3
หมื่นสัญญา (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.6 พันล้านบาท)
ในขณะที่ขายหุ้นสุทธิในช่วงเวลาเดียวกันเป็นมูลค่าถึง 9.1 พันล้านบาท ตลกไหมละครับ..
ซื้อฟิวเจอร์ส-ขายหุ้น มูลค่าใกล้เคียงกันแถมในช่วงเวลาเดียวกันซะอีก นี่อาจจะเป็น 1
ในสาเหตุที่ทำให้ตลาดผันผวนหนักซะตั้งแต่ต้นปีก็ได้กระมังครับ
จริงๆ เราไม่มีทางรู้แน่ชัดดอกครับว่าฝรั่งเค้ากำลังทำอะไร
สมมติฐานมันก็มีมากมายแล้วแต่คนจะคิด แต่อย่างหนึ่งที่พอจะเดาได้ก็คือเค้าคงจะไม่ได้มองหุ้นไทยแย่มากๆ
เหมือนปีที่ผ่านๆ แล้วละครับ ก็แหม เปิดต้นปีมาซื้อสุทธิ SET50 Futures ซะขนาดนั้น
(จะเป็น open long หรือ close short ก็ดีทั้งนั้นละครับ) ซึ่งพอไปดูตัวเลขย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี
2013 พี่ฝรั่งขายหุ้นไทยสุทธิไปเกือบ 4 แสนล้านบาทแล้วครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่เค้าจะมีขนมาขายอีกมากแค่ไหน
แต่พอไปดู valuation ของหุ้นกลุ่มใหญ่อย่าง Bank และ ICT แล้วนั้น
ก็พบว่าราคาลงมาจนอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
ซึ่งถ้าผมเป็นพี่หรั่ง ผมจะหยุดขายแล้วเริ่มมองหาจังหวะซื้อแล้วละครับ
แต่ก็คงเป็นการซื้อเพื่อขายเล่นรอบมากกว่าลงทุนยาวไปเลย เพราะคิดว่าภาพพื้นฐานในระยะกลางของ
2 กลุ่มนี้ยังไม่ได้ดูสดใสมากมายอะไรนัก
ข้อสรุปของผมก็คือ ตลาดหุ้นไทยปีนี้ไม่น่าจะแย่เท่าปีที่แล้วครับ
ลักษณะน่าจะมีคลื่นลมแรงเป็นหย่อมๆ ให้ซื้อขายเล่นรอบได้
ประกอบกับนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทจำกัดหลายแห่งเริ่มมีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ซึ่งท้ายสุดก็ต้องมีการกระจายลงทุนไปยังหุ้น สภาพคล่องในประเทศยังเยอะ
และดอกเบี้ยนโนบายในประเทศคงไม่น่าจะขึ้นไปจนถึงอย่างน้อยก็ไตรมาส 4 ปีนี้ครับ