Wednesday, December 19, 2012

และนี่.. คือ .. คำตอบครับ!

สวัสดาคริบ สวัสดีครับ, 
เขียนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555

 

สัปดาห์นี้นักค้าต้องขอแสดงว่ายินดีปรีดากับนายชินโสะ อาเบะ หัวหน้าพรรคแอลดีพี ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น (หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในการประชุมสภาไดเอท ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ธ.ค.นี้เป็นอย่างเร็วที่สุด).. ข่าวการเปลี่ยนรัฐบวม เอ้ย รัฐบาลใหม่ทำให้หุ้นญี่ปุ่น ขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือนครับ(แต่ยังสู้ของไทยไม่ได้..16 ปีแห่งความหลังพังทลายด้วยน้ำมือของนักลงทุนไทยและเทศ)ค่าเงินเยนต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนยวบสุดในรอบ 20 เดือน.. จี๊ด..เพราะมีการคาดกันว่าท่านนายกใหม่จะจัดเต็มนโยบายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพิ่มสภาพคล่อง.. รวมถึงลดค่าเงินเยน เพื่อให้ธุรกิจส่งออกดีขึ้น.. ตรงนี้อย่างที่บอกไปตั้งกะเดือนที่แล้วครับว่าธุรกิจส่งออกมีสัดส่วนในการคำนวณดัชนี NIKKEI 225 สูง.. ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มกลับมากระชุ่มกระชวยแล้วละ (ล่าสุดก็เกินหมื่นไปแล้ว เย้!)


ถัดมาข่าวฮอตฮิตอีกเรื่องคงหนีไม่พ้น QE4 จากธนาคารกลางสหรัฐ.. ซึ่งผมบอกได้เลยว่า Fed จัดเต็มแบบไม่รู้จะจัดยังไงแล้วรอบนี้.. ทำไมถึงบอกแบบนั้น? คืองี้ครับ.. เพื่อนๆคงทราบกันดีว่ามาตรการ Operation Twist กำลังจะหมดลงในสิ้นปีนี้แล้ว.. ซึ่ง Fed ก็ได้เตรียมไม้ต่อโดยการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว 5-20 ปี วงเงิน 45,000 ล้านเหรียญ $ ต่อเดือน (QE4) ไว้อัดทุกเมื่อเพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยขึ้นสูง.. นอกจากนี้ยังซื้อ Mortgage-backed securities (MBS) ในช่วงอายุ 10 ปีขึ้นไป วงเงิน 40,000 ล้านเหรียญ $ ต่อเดือนไปด้วย (QE3) เพื่อกดให้ดอกเบี้ยที่อ้างอิงกับที่อยู่อาศัยระยะยาวอยู่ในระดับต่ำ.. และยังคง Fed Fund Rate ไว้ในระดับที่ต่ำกว่า 0-0.25% เพื่อกดดอกเบี้ยระยะสั้นให้เตี้ยม่อต้อไปจนถึงปี 2015.. เพื่อนๆจะเห็นว่าทั้งดอกเบี้ยระยะยาว กลาง และสั้น ถูกกดไว้หมด.. นิละครับที่ผมบอกว่า Fed เทหมดใจใส่หมดฟลอร์.. แล้วจะหยุดเมื่อไหร่? อย่างน้อย Fed ประกาศไว้ในการประชุมครั้งล่าสุดครับว่า อัตราการว่างงานต้องต่ำกว่า 6.5% ซะก่อน (จากตอนนี้ที่ 7.7%) และเงินเฟ้อก็ต้องสูงกว่า 2.5% นะ (ปัจจุบันประมาณ 2%)

ตรงนี้จะเห็นครับว่า.. แม้เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัว ปัญหา Fiscal cliff ที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อไปถึงปีหน้า.. ปัญหายุโรปที่ยังยั้วเยี้ย.. แต่สภาพคล่องล้นเหลือจากนโยบายอัดฉีดจากธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก (FED, ECB, BOJ, BOE,..) ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบ้านเราที่ยังดูดี.. อีกทั้งนโยบายภาษีใหม่ล่าสุดที่กระชากใจวัยกลางคนอย่างเราๆ (ดูรูปด้านล่างประกอบเลยครับ) เพื่อกระตุ้นการบริโภคและใช้จ่าย.. ตรงนี้น่าจะช่วยประคองตลาดหุ้นบ้านเราให้ไม่หวั่นแม้วันมามาก.. แม้นักลงทุนหลายท่านอาจสงสัยว่า เอ๊ะ หุ้นไทยแพงไปมั้ย จะมีลงแรงๆอีกรึยัง.. และนี่.. คือ.. คำตอบครับ


No comments:

Post a Comment