เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2556
ปีใหม่ผ่านไปหุ้นไทยก็เหมือนจะสดใสไฉไลกว่าเดิม.. แต่เดี๋ยวก่อน!
ลองฟังความเห็นจากเหล่ากูรูว่าเค้ามองภาพเศรษฐกิจจากนี้ไปอย่างไร วันนี้จะมาสรุปประเด็นที่น่าสนใจให้อ่านกันครับ
กูรูดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท.
กูรูประสารมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตที่ระดับ 4.6 - 4.7% โดยมีอุปสงค์ในประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นแรงขับเคลื่อน
เช่น จากโครงการรถคันแรกที่มีคนมาขอใช้สิทธิ์ราว 1.2 ล้านคน
ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลคันละประมาณ 1 แสนบาท ก็เท่ากับว่ามีเงินไหลเข้าระบบ 1.2
แสนล้านบาท.. กระต๊าก! หรือจะเป็นมาตรการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาจากอัตรา 0-37% ลดลงเป็น 0-35%
และเพิ่มความถี่อัตราเงินได้จาก 5 ขั้นเป็น 7 ขั้น ซึ่งผู้มีรายได้น้อยจะได้ลดภาษีมากกว่า.. นโยบายเหล่านี้ถือเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อีกทาง..
รวมทั้งมาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 23% เหลือ 20% ในปี 2556 ก็ถือว่าเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ
ช่วยลดต้นทุนให้ภาคธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ในระดับหนึ่ง..
นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐทั้งโครงการป้องกันน้ำท่วมวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่ดีแม้จะมีความเสี่ยงว่าจะสามารถทำตามแผนได้หรือไม่..
กล่าวโดยสรุป กูรูประสารเชื่อว่าปี 2556
ถือว่าเป็นปีที่การเติบโดค่อนข้างเต็มไปด้วยศักยภาพ แรงส่งยังดี ปรู๊ดๆ จู๊ดๆ.. ท่านจึงมองว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเป็นพิเศษ..
ตอนนี้ยังชิลๆอะน่ะ
กูรูดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ
กูรูกอบมองว่าปัจจัยการเมืองของไทยจะกลับมาเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกครั้งในปีนี้..
ประมาณช่วงกลางปี 2556 ต้องจับตามอง เพราะจะส่งผลให้การบริโภค
การลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นต้องชะลอตัวลง.. ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐแม้จะมีความคืบหน้าจากแผนการแก้ฐานะการคลังสหรัฐในเบื้องต้น
แต่กูรูเห็นว่าก็แค่เปลี่ยนจากหน้าผาทางการคลังมาเป็น “เนินเขาการคลัง”
เท่านั้นนะครับนะ..
ค่อยๆกลิ้งตกลงมา แต่จะตกหลายปี.. โอ้วโน้ว! ส่วนยุโรป (- -) ลำบาก.. เพราะปัญหาจะยาวไป 3-4 ปี เนื่องจากคนสร้างปัญหาเป็นคนเดียวกับคนแก้ซึ่งก็คือรัฐบาล
(ก่อหนี้) ต่างจากกรณีของไทยในปี 2540 ที่ทุกอย่างล้มละลายโพละ
แต่รัฐบาลสามารถทำหน้าที่ใช้จ่ายได้ (เย้) “วันนี้ยุโรปตัดสินใจเรียบร้อยแล้วว่า
จะไม่มีใครออกจากยูโร เขาจะกอดคอกันจมน้ำตาย.. ต่อให้กอดคอจมน้ำตาย 17 คน
เขาก็ขอกอดคอลักษณะนั้น
เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าใครออกไปก็ไม่ได้ประโยชน์แม้แต่คนเดียว” กูรูกอบกล่าวสรุป
กูรูดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผ.อ.สำนักมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐการเงิน ธปท.
กูรูทรงบอกปีเนี้ยปีงูเล็ก(มะเส็ง)โอเคนะ
นิสัยงูน่าจะช่วยเหลือตัวเองได้พอสมควร (^_^)
กลุ่มประเทศเกิดใหม่ในเอเซียน่าจะขยายตัวได้ต่อ โดยเฉพาะจีน
เพราะเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะสนับสนุนการลงทุน การส่งออก และการบริโภคให้ขยายตัว
ซึ่งการเติบโตของจีนจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของไทยด้วย.. ส่วนปัจจัยเสี่ยงในปีนี้ยังเป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกและอัตราเงินเฟ้อจากผลกระทบค่าจ้างแรงงาน
แต่หากมองย้อนหลังไปเมื่อตอนที่ปรับค่าจ้าง 7 จังหวัด วันที่ 1 เมษ. 2555
ผลกระทบอาจจะยังมีไม่มาก..
อย่างไรก็ดีต้องติดตามต่อเรื่องโครงสร้างพลังงานการปรับราคาก๊าซแอลพีจีว่าจะกระทบต่อเงินเฟ้อมากน้อยแค่ไหน
และสุดท้ายคือการขยายตัวของสินเชื่อ
สรุป ตลาดหุ้นไทยที่ระดับ P/E 18.5 เท่า Dividend yield ราว 3%
ยังดูเหมือนจะขึ้นได้แบบฝืนๆนะครับนะ..
ก็ Stay calm, stay invested กันต่อไปละกัน.. ทาเคชิ!
No comments:
Post a Comment