Wednesday, November 20, 2013

ณ จุดนั้น ชั้นทำอะไร

สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2556

วันก่อนได้อ่านเปเปอร์สั้นๆฉบับหนึ่ง เจอรูปน่าสนใจดี เลยนำมาฝากแฟนๆคอลัมภ์ซะหน่อยครับ
ก่อนจะอธิบายรูป ผมอยากจะพูดถึงศาสตร์หนึ่งที่ชื่อว่า จิตวิทยามวลชน (Behavioral Finance) ก่อน ศาสตร์นี้เกี่ยวข้องกับพวกเรานักลงทุนแน่นอนครับ เพราะบางครั้งมันช่วยอธิบายถึงความไม่มีเหตุผลของราคาสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หรือ ตราสารอนุพันธ์ ว่าทำไมบางครั้งราคามันถึงไม่เป็นไปตามพื้นฐาน ทำไมหุ้นตัวนั้นแพงแล้วถึงแพงได้อีกแต่ทำไมบางตัวถูกอยู่อย่างนั้นสม่ำเสมอ หรือ ทำไมเมื่อมีความกังวลต่างๆเยอะแยะตาแป๊ะเป็นลม แต่หุ้น หรือ ตราสารอนุพันธ์ของหุ้นกลับไม่ลง.. บางทีมันก็อาจเป็นเรื่องของอารมณ์ และ ความคาดหวัง

คำอธิบายของ Behavioral Finance โดยตรงก็คือ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์ครับ ไม่ว่าจะเป็นทางสังคม อารมณ์ หรือความรู้สึก เพื่อนำไปอธิบายถึงการตัดสินใจของนักลงทุนในสถานการณ์ต่างๆ ที่จะมีผลต่อราคาสินทรัพย์ เช่น พฤติกรรมตอบสนองมากเกินไปหรือน้อยเกินไป (Over-react and Under-react) พฤติกรรมแห่ตามคนส่วนใหญ่ เค้าว่าไงเราว่างั้น (Herd instinct) หรือ พฤติกรรมการซื้อขายตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง หุ้นผีบอก เค้าบอก (Noise trading) ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้นักวิชาการเค้ามักนำมาใช้โต้แย้งกับทฤษฎีความมีประสิทธิภาพของตลาดครับ (Efficient market theory)

ผมคงไม่ลงในรายละเอียดมากไปกว่านี้ เพราะเขียนไปก็รู้สึกว่าเริ่มจะงงเอง.. กลับมาที่รูปดีกว่า คุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิตการลงทุนรึเปล่า เช่น รู้สึกว่า “โอ้วว ช่วงเวลานี้ฉันอยากลงทุนจริงๆเลย รู้สึกดีมากๆเลย ซื้อเต็มแมกส์!” นั่นละครับ ณ จุดความรู้สึกนั้น คุณอาจกำลังใกล้ถึงยอดดอย ซึ่งในรูปแทนด้วยคำว่า “Euphoria” (หมายถึง ความรู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นเป็นที่สุด) ซึ่งจากนั้นไม่นาน หุ้นก็ลง หรือ คุณเคยรู้สึกหดหู่แบบนี้บ้างไหม “เอ้อ เล่นทีไร โดนทุกที เซงเป็ดพะโล้จริงๆ ตลาดหุ้นคงไม่เหมาะกับเรากระมัง ขายโล๊ะพอร์ต!” ซึ่งหารู้ไม่ว่า ณ จุดนั้นราคามันอาจกำลังจะถึงก้น และหลังจากนั้นไม่นาน มันก็เด้ง

ที่เขียนทั้งหมด เพียงเพื่อจะให้ตระหนักว่า บางทีอะไรๆที่เราคิด มันก็อาจไม่เป็นอย่างที่คิดครับ ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน (Uncertainty is the only certainty) การวิเคราะห์การลงทุน บางทีมองในแง่มุมเดียวคงไม่ได้ การบริหารความรู้สึก อารมณ์ เป็นเรื่องจำเป็น และที่สำคัญคือ รู้ให้เยอะเข้าไว้ครับ เพราะไม่ว่าสถานการณ์ใดมาถึง เราก็แค่เปิดลิ้นชัก หยิบความรู้ที่เรามีมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์  เท่านั้นเอง

No comments:

Post a Comment