Wednesday, December 26, 2012

บทส่งท้ายปี

เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2555

         
          ในวาระดิถีขึ้นปีหน้า                                             ผมนักค้าขอขอบคุณที่ตามอ่าน
ร่วมแบ่งปันความรู้เป็นธรรมทาน                                        ช่วยกันสานสิ่งดีดีให้สืบแล
          ฟิสคัลคลิฟฟ์จบไม่จบใครเล่ารู้                                ท่านกูรูสำนักไหนชี้เบาะแส
แต่หุ้นไทยปีนี้เอ็งช่างแน่                                                  ขึ้นได้แม้ความกังวลยังล้นฤา
          หนี้ยุโรปอีกแล้วหรอไม่พออีก                                 อยากติดปีกบินไปเยี่ยมเสียจริงหนา          
กรีซสเปนโปรตุเกสอะไรวา                                               แก้ไปมาไม่จบสิ้นระทวยทรวง
          เอ้อเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ใครว่าเก๋า                          หุ้นอับเฉาเห็นแล้วเศร้าเน่าหนักหนวง
แต่ของถูกแบบนี้น่าตักตวง                                                เผื่อมีดวงขึ้นกระฉูดได้ขายแพง 
          นายอาแบะเอ้ยอาเบะจากญี่ปุ่น                               ทำให้ลุ้นนิเกอิริส่องแสง
หากเยนอ่อนดอลล์แข็งส่งออกแรง                                   ของแสลงอาจเป็นดีมีเฮเอา
          เออีซีใกล้เข้ามาเป็นว่าเล่น                                     ไทยเราเด่นตั้งอยู่กลางคนอื่นเขา
ลุยโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลเรา                                        หุ้นรับเหมาอาจจะดีแม้หนี้พอง
          กลุ่มโรงบาลธนาคารกลุ่มประกัน                            ช่างแข็งขันเติบโตดีไม่มีหมอง
จากนี้ไปอีกสิบปียังต้องมอง                                             เพราะพี่น้องชาวไทยยิ่งชรา
          ปรับเป้าSETปีหน้าเป็นว่าเล่น                                 โอ้ใจเย็นท่านกูรูค่อยศึกษา
มีพักบ้างอะไรบ้างเป็นครั้งครา                                          ก่อนทะยานขึ้นฟ้าฝ้าได้พัง
          ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่                                               ขออวยชัยแฟนนักค้าให้สุขขัง
คิดสิ่งใดทำสิ่งใดให้มีพลัง                                                มีเงินถังทองเป็นถุงพุงเรียบเทอญ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนักค้าหน้าหยกมาตลอดปี.. พบกันใหม่ปีหน้าฟ้าสวย^^ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆครับผม

Tuesday, December 25, 2012

If the Charter Should Change?‏

Written on Dec 25, 2012

...Bells on bob tails ring. Making spirits bright. What fun it is to laugh and sing a sleighing song tonight. Oh Merry Merry Christmas everyone. Cheers!!

Politics – Pheu Thai chooses to go ahead
The ruling Pheu Thai Party will go ahead with its plan for a referendum on amending the Constitution, which may be held during 12 Mar to 12 April 2013. The Party is now confident that more than half of eligible voters would come to vote. Voters will be asked one question - whether the charter, adopted in 2007, should change. That’s it. Nonetheless, the Democrats claim the charter change proposal is obviously aimed at whitewashing fugitive ex-prime minister Thaksin as no part of the charter posed any obstacle to national development or solving society’s problems.

Market view: The SET is expected to rock in a tight range, with positive momentum from Japan as the yen touched a 20-month low versus the dollar, after PM Abe said he will pressure the BOJ to do more to end deflation. Investors, especially people overseas, strongly want to sell the yen because of easing hopes. At home, foreign buying will likely wane out during the final week but buying from institutional investor through LTFs will keep helping shield the market eventually.

Monday, December 24, 2012

A Cliff-Mas Miracle‏

Hi,
Written on Dec 24, 2012

  
Firstly, I would like to say thank you for all your support this year as always and wish all of you a very Merry Xmas and ever so lucky next year. Currently, we are hoping for a ‘cliff-mas’ miracle as lawmakers in Washington have only one week left to strike a fiscal cliff deal. Investors are on heightened alert over the gridlock, since politicians down their Plan B late last week, and debate is halted until after the Christmas holiday. Apart from that, foreign investors remained net buyers amounting THB15 bn of the Thai market for the past two weeks. Tax savings LTF RMF flows are expected to buy up to THB10 bn worth of stocks for their portfolios in the final week of the year. I thus anticipate a low volume trading week with limited upside and protected downside. Chill out.  

Basel 3 (on local newspaper Bangkok Post today): The BOT has officially announced the adoption of new international capital requirement standards and guidelines for banks in calculating off-balance-sheet activities as risk assets that must be sufficiently protected by capital funds. For example, first-tier capital should not be less than 6% of the total, from presently 4.5%, with at least 4.5% of that in the form of common shares. Meanwhile, the headline requirement for total capital funds remained intact at 8.5%. Local banks will have no problem adjusting as they already exceed the new minimum requirement. Note that the new standards will be taking effect from Jan 1 onwards.

Wednesday, December 19, 2012

และนี่.. คือ .. คำตอบครับ!

สวัสดาคริบ สวัสดีครับ, 
เขียนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555

 

สัปดาห์นี้นักค้าต้องขอแสดงว่ายินดีปรีดากับนายชินโสะ อาเบะ หัวหน้าพรรคแอลดีพี ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น (หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในการประชุมสภาไดเอท ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ธ.ค.นี้เป็นอย่างเร็วที่สุด).. ข่าวการเปลี่ยนรัฐบวม เอ้ย รัฐบาลใหม่ทำให้หุ้นญี่ปุ่น ขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือนครับ(แต่ยังสู้ของไทยไม่ได้..16 ปีแห่งความหลังพังทลายด้วยน้ำมือของนักลงทุนไทยและเทศ)ค่าเงินเยนต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนยวบสุดในรอบ 20 เดือน.. จี๊ด..เพราะมีการคาดกันว่าท่านนายกใหม่จะจัดเต็มนโยบายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพิ่มสภาพคล่อง.. รวมถึงลดค่าเงินเยน เพื่อให้ธุรกิจส่งออกดีขึ้น.. ตรงนี้อย่างที่บอกไปตั้งกะเดือนที่แล้วครับว่าธุรกิจส่งออกมีสัดส่วนในการคำนวณดัชนี NIKKEI 225 สูง.. ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มกลับมากระชุ่มกระชวยแล้วละ (ล่าสุดก็เกินหมื่นไปแล้ว เย้!)


ถัดมาข่าวฮอตฮิตอีกเรื่องคงหนีไม่พ้น QE4 จากธนาคารกลางสหรัฐ.. ซึ่งผมบอกได้เลยว่า Fed จัดเต็มแบบไม่รู้จะจัดยังไงแล้วรอบนี้.. ทำไมถึงบอกแบบนั้น? คืองี้ครับ.. เพื่อนๆคงทราบกันดีว่ามาตรการ Operation Twist กำลังจะหมดลงในสิ้นปีนี้แล้ว.. ซึ่ง Fed ก็ได้เตรียมไม้ต่อโดยการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว 5-20 ปี วงเงิน 45,000 ล้านเหรียญ $ ต่อเดือน (QE4) ไว้อัดทุกเมื่อเพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยขึ้นสูง.. นอกจากนี้ยังซื้อ Mortgage-backed securities (MBS) ในช่วงอายุ 10 ปีขึ้นไป วงเงิน 40,000 ล้านเหรียญ $ ต่อเดือนไปด้วย (QE3) เพื่อกดให้ดอกเบี้ยที่อ้างอิงกับที่อยู่อาศัยระยะยาวอยู่ในระดับต่ำ.. และยังคง Fed Fund Rate ไว้ในระดับที่ต่ำกว่า 0-0.25% เพื่อกดดอกเบี้ยระยะสั้นให้เตี้ยม่อต้อไปจนถึงปี 2015.. เพื่อนๆจะเห็นว่าทั้งดอกเบี้ยระยะยาว กลาง และสั้น ถูกกดไว้หมด.. นิละครับที่ผมบอกว่า Fed เทหมดใจใส่หมดฟลอร์.. แล้วจะหยุดเมื่อไหร่? อย่างน้อย Fed ประกาศไว้ในการประชุมครั้งล่าสุดครับว่า อัตราการว่างงานต้องต่ำกว่า 6.5% ซะก่อน (จากตอนนี้ที่ 7.7%) และเงินเฟ้อก็ต้องสูงกว่า 2.5% นะ (ปัจจุบันประมาณ 2%)

ตรงนี้จะเห็นครับว่า.. แม้เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัว ปัญหา Fiscal cliff ที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อไปถึงปีหน้า.. ปัญหายุโรปที่ยังยั้วเยี้ย.. แต่สภาพคล่องล้นเหลือจากนโยบายอัดฉีดจากธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก (FED, ECB, BOJ, BOE,..) ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบ้านเราที่ยังดูดี.. อีกทั้งนโยบายภาษีใหม่ล่าสุดที่กระชากใจวัยกลางคนอย่างเราๆ (ดูรูปด้านล่างประกอบเลยครับ) เพื่อกระตุ้นการบริโภคและใช้จ่าย.. ตรงนี้น่าจะช่วยประคองตลาดหุ้นบ้านเราให้ไม่หวั่นแม้วันมามาก.. แม้นักลงทุนหลายท่านอาจสงสัยว่า เอ๊ะ หุ้นไทยแพงไปมั้ย จะมีลงแรงๆอีกรึยัง.. และนี่.. คือ.. คำตอบครับ


Wednesday, December 12, 2012

ดีต่อเนื่อง (เรื่องของ SET)


สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2555

โอ้โห้เผลอไม่ทันไรใกล้จะสิ้นปีแล้ว โย่วๆ.. ตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนี้ช่างดูสดใสเสียนิกระไรไม่เห็นเหมือนที่ใครๆกลัวเอาๆ Fiscal cliff ยิ่งกลัว หุ้นก็ยิ่งขึ้น.. เอ๊ะ ยังไง หรือเรากำลังปีนบันไดแห่งความกังวล (Wall of worry) อยู่รึป่าว ฮ่าๆ.. อย่ากระนั้นเลย ลุ้นคืนนี้กันดีกว่าว่า Fed จะปล่อยแสง (QE) อีกรึป่าว.. แต่นักค้าว่าปล่อยบ่อยๆมันไม่ขลังอะ! เลยเดาว่าน่าจะเป็นอะไรที่เบาเบา เช่น ขยายไซส์ QE จากซื้อ MBS 40 พันล้าน $ ต่อเดือนไปเป็น 45.. ซึ่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น (ถ้าเกิด) ก็ขอใช้คำว่า ดีต่อเนื่องละกันครับ.. นอกจากนี้ก็ไปลุ้นการประชุมสุดยอดผู้นำยูโรโซนในสุดสัปดาห์นี้ว่าจะมีอะไรคืบหน้าหรือไม่.. เอ๊ะ ญี่ปุ่นเค้าก็จะมีเลือกตั้งใหม่ 16 ธ.ค.นี้นิ.. โฮ่ๆๆ เจ้าพรรคฝ่ายแค้น เอ้ย ฝ่ายค้านนิเตรียมกดดันธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้กระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งใช้มาตรการเงินแบบผ่อนคลายสบายๆมากขึ้นเลยนะ.. ดีๆ โยกเข้าไปๆ.. ส่วนหุ้นไทย ณ บัดนาวนอกจากจะทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปีแล้น ยังขยับแรงแซงโค้งติดอันดับตลาดหุ้นที่ผลตอบแทนดีที่สุดอันดับ 6 ของโลกในปีนี้ (+30.82%) โอ้ว บร่ะเจ้า! มาลันดูแกว่าที่ 1-5 มีผู้ใดบ้าง

อันดับ 5 ตลาดหุ้นอียิปต์ +31.85% (EGX 30 Index)


อันดับ 4 ตลาดหุ้นปากีสถาน +32.02% (KARACHI 100 Index)


อันดับ 3 ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ +38.85% (PHILLIPPINE SE Index)


อันดับ 2 ตลาดหุ้นตุรกี +53.57% (ISE NATIONAL 100 Index)


และอันดับ 1.. แต่น แตน แต๊น.. ตลาดหุ้นเวเนซูเอล่า +262% (VENEZUELA STOCK MKT Index)


เพื่อนๆสังเกตไหมครับว่า ตลาดสุโค่ยพวกนี้ ล้วนจัดอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ทั้งน้าน.. ส่วนเจ้าเวเนซุที่บวกไม่สนพี่สนน้องสนลุงสนป้าเยี่ยงนี้ หลักๆเลยบวกมาจากกลุ่มธนาคารอะจ๊ะ.. โดยเฉพาะเจ้าธนาคารที่นามว่า BBVA Banco Provincial บวกมากกว่า 200% ในปีเดียว.. บร่ะเจ้า! ส่วนตลาดหุ้นไทย.. ฝันให้ไกลไปให้ถึงครับ.. ด้วยพลานุภาพแห่ง LTF และ RMF จนถึงสิ้นปีนี้ของเม่าอย่างเราๆ ผมเชื่อว่า SET Index จะไปถึงฝั่งฝันได้ไม่ยาก.. เจอกันที่เส้นขอบฟ้านั่น.. อาดิโอส



Thursday, December 6, 2012

กองทุนรางวัลโนเบลก็ยังลงทุนในหุ้นนะจ๊ะ

เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2555

แม้ตลาดหุ้นจะปิด! แต่นักค้าหน้าหยกยังมาพบกับทุกท่านเหมือนเดิมนะคร้าบ.. วันนี้ขอเสนอตอน "กองทุนรางวัลโนเบลก็ยังลงทุในหุ้นนะจ๊ะ!"

หากพูดถึงรางวัลก้องโลกที่ผู้ใดได้รับนับเป็นเกียรติยศสูงสุดของชีวิต หนึ่งในนั้นย่อมมีชื่อ "รางวัลโนเบล" อยู่เป็นแน่ครับ.. นอกจากใบประกาศเกียรติคุณแลว ผู้รับยังได้เงินมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย.. ซึ่งทุกปีจะมีผู้ได้รับรางวลรวม 5 สาขาด้วยกัน (ฟิสิกส์ เคมี การแพทย์ วรรณกรรม และสันติภาพ) นั่นหมายถึงกองทุนที่ตั้งโดยหนุ่มโสดนามว่า Alfred Nobel จะต้องจ่ายเงินถึงปีละ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.. โอวว.. เค้าเอาเงินมาจากไหน? มีวิธีบริหารเงินอย่างไร?


นักค้าสรุปให้ฟังสั้นๆแบบนีครับ.. ในช่วงแรกของการตั้งกองทุนเมื่อปีพ.ศ. 2439 กองทุนมีเงินตั้งต้นจากนายโนเบล 9,800,000 $ นิละ.. แน่นอนต้องมีการลงทุนเพื่อให้เงินออกดอกออกผล เพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆรวมถึงเงินรางวัล.. แต่เนื่องจากกองทุนนี้นำเงินไปลงทุนในพันธบัตร ฝากธนาคาร เกือบทั้งหมด.. เพราะนโยบายกองทุนคือ ไม่เน้นเสี่ยง.. ขอเซฟๆไว้ก่อน.. พอนานเข้า เงินกองทุนก็ลดลงเรื่อยๆ.. เรื่อยๆ.. จนคณะกรรมการคิดว่าต้องทำอะไรซักอย่าง ไม่งั้นแย่แน่! "จริงๆแล้วการไม่เสี่ยง คือการเสี่ยงที่สุดรึป่าวนะ?" คณะกรรมการท่านนึงคิด.. "อย่ากระนั้นเลย.. ลองเปลี่ยนมาลงในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักดูดีกวา" หลังจากนั้นไม่น่าเชื่อครับ.. เงินกองทุนที่ลดลงเหลือ 3 ล้าน $.. เพิ่มมาเป็น 270 ล้าน $ ในอีก 40 ปีถัดมา (ในปี 2536) เพราะเพียงแก้ไขกฎข้อบังคับกองทุนเมื่อปี 2496 เท่านั้น.. กระต๊าก!?

ตรงนี้สอนอะไร? แน่นอนครับการลงทุนมีความเสี่ยง.. แต่ความเสี่ยงนั้นถูกจำกัดได้ด้วยความรู้ที่เราศึกษา.. การลงทุนในพันธบัตรหรือฝากธนาคารนั้นไม่ผิด.. แต่มันลิมิตผลตอบแทนที่เราควรได้รับ.. ซึ่งเพียงแค่ปรับแนวคิดการลงทุน อะไรๆมันก็เปลี่ยน ดังเช่น กองทุนรางวัลโนเบล.. ที่เปลี่ยนนโยบายการลงทุน ทำให้จากที่ต้องเกือบปิดกองทุน มาเป็นอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ :)