สวัสดีครับ,
กลับมาอัพเดทสภาพตลาดกันต่อหลังจากผ่านพ้นช่วงหยุดยาวไป
ซึ่งต้องบอกเลยครับว่าตลาดหุ้นไทยนั้นร้อนแรงไม่แพ้กับสภาพอากาศที่ร้อนระอุในช่วงนี้
ถ้าดูจาก chart ด้านล่างจะพบว่าดัชนี SET ทำผลตอบแทนจากต้นปีราว 10% ซึ่งถือว่าใช้ได้
แม้จะไม่ได้สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกก็ตาม (เจอ บราซิล IBOV +38%YTD,
โคลัมเบีย
COLCAP +29%YTD) แต่ก็ดีกว่าการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น (-11%YTD) หรือจีน
(-14%YTD) ซึ่งพอมาเจาะดูราย sector ก็พบว่าเป็นหุ้นกลุ่มพลังงานนิละครับที่ดึงดัชนีและ
outperform ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้การจะคาดการณ์ว่าหุ้นพลังงานจะช่วยผลักดันให้ SET ไปต่อได้หรือไม่
ก็คงต้องขึ้นกับราคาน้ำมันเป็นหลักครับ ซึ่งลองวิเคราะห์เบื้องต้นแบบพื้นๆ ในแง่ supply
side แล้ว เราได้เห็นแหล่งผลิตน้ำมันหลายแห่งทยอยปิดเนื่องจากขาดทุนบักโกรก
ในขณะที่ด้าน demand side ก็น่าจะค่อยๆ
เพิ่มขึ้นเพราะราคาน้ำมันต่ำกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก
ผู้ใช้น่าจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นสรุปได้ว่าราคาน้ำมันอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและความผันผวนของราคาในปีนี้ก็น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้วครับ
สุดท้ายในแง่ของ Fund flows เป็นที่น่าสนใจครับว่า (จากรูป)
นักลงทุนต่างชาติได้เป็นผู้ขายสุทธิในหุ้นไทยอย่างหนักมาต่อเนื่อง 3 ปี
(2013-2015)
แต่ปีนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณดีแล้วว่าเค้าได้กลับมาซื้อสุทธิในหุ้นไทยบ้างแล้ว ยะฮู้! ซึ่งหาก momentum
ยังเป็นแบบนี้ต่อเนื่อง
เราก็คงอุ่นใจได้เปราะหนึ่งครับว่า downside ของตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปคงน่าจะจำกัดครับ