สวัสดีครับ,
หากจำกันได้ในบทความครั้งก่อนผมได้ทำนายเล่นๆ ไว้ครับว่านักลงทุนต่างชาติน่าจะกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยในไม่ช้าจากสัญญาณที่เห็นเค้า
long สุทธิใน SET50 futures ค่อนข้างเยอะ และค่าเงินบาทที่แข็งมาค่อนข้างดีจากต้นปี
และแล้วเค้าก็กลับมาจริงๆ ครับ โดยฝรั่งกลับมาเป็นซื้อสุทธิถึง 6 วันติด
(นับจนถึงวันที่ 23 ก.พ.) เป็นยอดรวม 7.1 พันล้านบาท ถามว่าตัวเลขนี้เยอะมั้ย?
ก็ยังไม่ได้เยอะมาก แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เค้ากลับมาแบบนี้ครับ
ทีนี้ถามว่าแล้วยังไงต่อ? ฝรั่งกลับมาแล้วแล้วยังไง?
หุ้นไทยจะบินได้ไหม? คือก็ตอบยากครับ
แต่ผมอยากให้เห็นภาพเดียวกันแบบนี้ก่อนว่าฝรั่งได้ขายสุทธิหุ้นไทยมาตลอด ซึ่งหากดูตั้งแต่ต้นปี 2013 จนถึงปัจจุบันเค้าได้ขายหุ้นสุทธิไทยเกือบ
4 แสนล้านบาท ซึ่งนับว่าเยอะนะครับหากเทียบกับมูลค่าที่เค้าถืออยู่ (ไม่นับที่เป็น
strategic holdings) ในขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นผู้ซื้อสุทธิมาตลอด
ประเด็นของผมก็คือว่า
ฝรั่งอาจจะไม่ได้เป็นตัวจี๊ดที่เราจะพูดเหมือนเมื่อก่อนได้แล้วครับว่า “ถ้าฝรั่งซื้อ หุ้นไทยจะขึ้น”
คำพูดที่เหมาะสมกับยุคปัจจุบันน่าจะเป็น “ถ้านักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อ หุ้นไทยจะ resilient”
มากกว่า เพราะขนาดฝรั่งขายหนักขนาดนั้น SET Index ยังติดลบเพียง
5.8% นับจากต้นปี 2013 เท่านั้นครับ
มาถึงบรรทัดนี้หลายท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วตกลงจะเอาอย่างไร?
ฝรั่งกลับมาซื้อสุทธิเนี่ยจะให้ดีใจหรือเสียใจกันแน่? ผมอยากให้ตีความอย่างนี้ครับ
คือถ้าฝรั่งซื้อและนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อด้วย อันนี้คือ best case แปลว่า flows
กลับมา
แถมนักลงทุนผู้ support ตลาดหุ้นไทยมาตลอดยังคง support ต่อไป แสดงว่าดีจริง
แต่ถ้าฝรั่งซื้อแล้วนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาขาย อันนี้อาจจะ neutral เพราะแม้ flows
จะกลับมา
แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซึ่งกลายเป็นผู้มีบทบาทสูงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากลับมาขาย
ทำให้ต้องระวัง ทั้งนี้จากสัญญาณที่เห็นในปัจจุบันคือฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ
และนักลงทุนสถาบันในประเทศก็ไม่ได้ขายสุทธิหนักอะไรครับ
ท้ายสุด (อันนี้แถม)
บางทีเราอาจจะสนใจแต่หุ้นจนลืมไปว่ามีอีกหลายสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้และผลตอบแทนก็ไม่ขี้เหร่อย่างเช่น
ทอง เงิน แพลทินัม หรือแม้แต่ค่าเงินเยน ที่ผลตอบแทน YTD นิวิลิศมาหรามาก...
ก็ลองดูนะ โชคดีครับผม