Wednesday, July 11, 2012

ค่าเงินดอลลาร์ & the Plaza Accord

สายัณห์สวัสดิ์... “นักค้าหน้าหยก” รายงานตัวครับผม! 
เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2555
ในปี 2012 นี้ ตลาดอนุพันธ์บ้านเรา หรือ TFEX ก็ได้ก้าวสู่ปีที่ 7 แล้ว... นักลงทุนบางท่านอาจจะคุ้นเคยกับการลงทุนใน TFEX เป็นอย่างดี หรือบางท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่กล้าสัมผัส... ไม่เป็นไรครับ ชีวิตคือการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น... สำหรับวันนี้... เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 1 เดือนที่ TFEX ได้เปิดตัวสินค้าน้องใหม่อย่างดอลลาร์ล่วงหน้า หรือ USD Futures (เกินนิดๆหยวนๆนะครับ) ผมเลยขอถือโอกาสนี้เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญครั้งนึงในอดีตที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ... ซึ่งเรื่องวันนี้ถือว่าค่อนข้างซับซ้อนกว่า 3 ครั้งที่ผ่านมา... เพราะอะไรนะหรอ? เพราะเหตุการณ์มันอยู่ในช่วงที่ผมยังไม่เกิดนะซิ อิอิ
Plaza (ไม่ใช่ Honda) Accord:  ย้อนไปเมื่อครั้งกระโน้น ในช่วงทศวรรษที่ 1980... ช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังบูมสุดๆ (ยุคที่บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และบริษัทใหญ่ของอเมริกาเป็นจำนวนมาก)... ค่าเงินเยนในตอนนั้นถือว่าอ่อนปวกเปียกเลยละครับ โดยเงิน 250 เยนแลกได้เพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น... แต่นั่น ทำให้สินค้าญี่ปุ่นสามารถส่งออกไปตีตลาดทั่วโลกได้โดยง่าย เพราะราคาถูก แต่คุณภาพระดับ made in Japan! ส่งผลให้ดินแดนอาทิตย์อุทัยได้เปรียบดุลการค้ากับเหล่าขาใหญ่ของโลกในตอนนั้น (อเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส) อย่างมหาศาล... แต่... นั่นก็เป็นดาบสองคม... ดีเกินไป ก็มีคนริษยา... ญี่ปุ่นในที่สุดก็โดนกดดันให้ปรับค่าเงินเย็นให้แข็งขึ้น ในประชุมของกลุ่ม G5 (4 ขาใหญ่ และญี่ปุ่น) ที่โรงแรมพลาซ่า กรุงนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 22 กันยายน 1985 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นถือว่าเป็นการแทรกแซงตลาดการเงินเป็นครั้งแรกของโลก (Currency Intervention) และถูกขนานนามว่า The Plaza Accord มาจนถึงทุกวันนี้...
จริงๆ แล้วไม่ใช่อะไรหรอกครับ... เบื้องหลังมันอยู่ที่พี่ใหญ่อเมริกา ในยุคของท่านประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน... ท่านต้องการให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อน เพื่อจะให้สินค้าส่งออกของตัวเองสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้... เพราะแม้อเมริกาจะเป็นผู้ชนะสงครามโลกในช่วงนั้น แต่ตัวเองก็บอบช้ำพอสมควร...  เศรษฐกิจต้องพบกับปัญหาขาดดุลแฝด (Twin deficits) คือ ขาดดุลการคลังภาครัฐบาล และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (ดุลการค้า + ดุลบริการ) ไปพร้อมๆกัน... โดยเฉพาะการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด นั่นหมายถึง อเมริกาจะต้องสูญเสียเงินดอลลาร์ออกไปเรื่อยๆ... ตรงข้ามกับประเทศที่เกินดุล (กลุ่มยุโรปตะวันตก และญี่ปุ่น) ที่มีเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ... จนในที่สุดอเมริกาก็ทนไม่ไหว... ต้องประกาศยกเลิกระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่อ้างอิงกับทองคำในปี 1971  เนื่องจากอเมริกาไม่มีทองคำมากพอสำหรับการหนุนพิมพ์ธนบัตรได้ (สมัยก่อน ทองคำ 1 ออนซ์ หรือ 2 บาท มีค่าเท่ากับ 35 ดอลลาร์สหรัฐ... เริ่มจากข้อตกลง Bretton Woods ในปี 1944) และนั่นก็นำไปสู่ข้อตกลงพลาซ่า หรือ The Plaza Accord ในปี 1985 นั่นเองครับ 
ผลจากพลาซ่า แอคคอร์ด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนฮวบ ในขณะที่ค่าเงินเยนแข็งโป๊ก... จาก 250 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 150 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นเกือบ 70% ภายในเวลาเพียง 10 เดือน... ซึ่งนั่นทำให้ญี่ปุ่นต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ด้วยการลดต้นทุนทุกอย่าง เพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศ ซึ่งไทยและหลายๆประเทศในอาเซียนก็พลอยได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นไปด้วย...   
เอาละ... ก่อนจะจากกันไป ก็อยากจะขอฝากใจไว้กับทุกๆ ท่าน~ เย้ยย... ไม่ใช่... อยากจะฝากให้ไปดูกันครับว่า ค่าเงินเยนตอนนี้แข็งไปถึงไหนแล้ว ถ้าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ... นอกจากนี้~ ผมก็มีประวัติคร่าวๆ ของค่าเงินบาทมาฝาก ใครสนใจก็ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะ! จะได้ลงทุนใน USD Futures ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น... แล้วพบกันใหม่พุธหน้าครับ


No comments:

Post a Comment