สวัสดีครับ
เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2556,
ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเหมือนตลาดหุ้นไทยโดนลวงตบซ้ายตบขวาแล้วพาไปปู้ยี่ปู้ยำ.. หลอกจะขึ้น เอ๊ะ เดี๋ยวลง..
หลอกจะลง เอ๊ะ เดี๋ยวขึ้น.. ยังไงนิ? อย่าไปคิดมากครับ ยึดหลักเดิมของท่านไว้ เช่น
ถ้าท่านเข้ามาเพราะอยากเก็งกำไร stop loss ต้องมีและห้ามลืม.. ไม่ใช่พอติด.. ก็แปลงร่างเป็น VI man/woman ซะงั้น! อย่างนี้ไม่ดีครับ
เมื่อต้นสัปดาห์มีข่าวหนึ่งที่สะดุ้งตาผมก็คือ ประเทศเพื่อนบ้านข้างคูจู้ฮุกกรูชื่อว่าเวียดนามได้ประกาศเฉือนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเค้าลง 1% (โดย Refinance rate เหลือ 8% และ Discount rate เหลือ 6%) ตรงนี้ธนาคารกลางเค้าทำเพื่อกระตุ้นการกู้ยืมและการบริโภคในประเทศ
หลังจากที่แรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อลดลง.. แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามได้ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปีครับ.. กระต๊าก! สาเหตุหนึ่งก็เพราะภาคธนาคารของเวียดนามมีระดับหนี้เสียที่สูงโฮกๆ..
ลองเคาะตัวเลขกันหน่อย.. เศรษฐกิจเวียดนามโต 5.03% ในปี 2555 (ไทยโต 6.4%) ในขณะที่ปีนี้คาดการณ์ว่าจะโต 5.5% (ไทยคาดโตราว 4.9%) ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงสิบปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2551 ที่โตเกือบปีละ 7% แล้ว ถือว่าลดลงไปพอสมควรเลยครับ
ตรงนี้เลยทำให้ผมกังวลใจเล็กๆ ว่าเศรษฐกิจบ้านเรามีโอกาสชะลอตัวแบบเพื่อนบ้านบ้างรึป่าวนะ
(แม้จะมีโปรเจคใหญ่กระตุ้นการลงทุนรออยู่) เพราะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบผู้ส่งออก (โดยเฉพาะขนาดกลาง-เล็ก) ซึ่งมีสัดส่วนราว 70% ของ GDP อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก.. อีกทั้งเมื่อเหลือบมองเพื่อนบ้านอีกประเทศอย่างอินโดนิเซียก็มีสัญญาณไม่ค่อยดีออกมาเช่นกัน
เช่นในปี 2555 ที่เค้าขาดดุลการค้าและขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นครั้งแรกนับจากวิกฤติการเงินต้มยำรสแซ่บเมื่อปี 2540 จากการนำเข้าน้ำมัน (จากเมื่อก่อนที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมัน) และมีแนวโน้มที่จะขาดดุลต่ออีกในปีนี้..
หนทางบางทีมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปครับ
No comments:
Post a Comment