สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2556
สถานการณ์ในตลาดหุ้นตอนนี้ลุ้นกำลังสนุก.. นำโดยข่าวเจ้าสัวธนินท์แห่ง CPALL นำทีมเขมือบ MAKRO โดยใช้เงินมหาศาลและเลขสวยถึง 188,880 ล้านบาท.. ทำให้ธุรกิจค้าปลีกในไทยเข้าสู่ยุคสามก๊กใหญ่ ได้แก่ 1. ก๊กเซ็นทรัล 2. ก๊กเทสโก้ โลตัส และ 3. ก๊กซีพี.. ถามว่าก๊กไหนเจ๋งสุด!? ก๊กเซ็นทรัลเองก็เจ๋งไม่หยอกนะครับ เพราะมีทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า BIGC TOPS รวมถึงร้านค้าอย่าง B2S SuperSport FamilyMart และล่าสุดก็เพิ่งสอยเจ้า OFM เครื่องเคียง เอ้ย เครื่องเขียนสำนักงานไป ครบรสจริงๆ.. ก๊กเทสโก้ โลตัสเองก็แจ๋ว เพราะแม้จะมีเพียงซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ช๊อปปิ้งมอลล์ และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพลส ที่เป็น Convenience store.. แต่หากรวมพื้นที่ค้าปลีกที่มีอยู่แล้ว เผลอๆจะมากกว่าเซ็นทรัลอีกนะฮ้า อะโจ๊ะ! สุดท้ายก๊กซีพีขาโฉด.. ที่ต้องบอกว่าสุโค่ยมากครับ เพราพี่แกเล่นสอย MAKRO ที่ราคา P/E เกือบ 50 เท่า -- แบบว่าผู้ถือหุ้น MAKRO ก่อน suspend ยิ้มแฉ่งกันเลยทีเดียว.. โดยก๊กนี้คือเจ้าของ 7-11 ที่มีสาขาเกือบ 7000 แห่งทั่วประเทศ และครองความเป็นผู้นำในตลาด Convenience store ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 70% OMG !!! ใครเจ๋งกว่าใครคิดไม่ถูกเบย
ด้านสถานการณ์ในตลาดอนุพันธ์ ก็สั่นขึ้นสั่นลงจนอากงตกใจ.. กระต๊าก!
เพราะเห็นฝรั่งแอบ
short SET50 futures หลังจากตลาดเปิดช่วงสงกรานต์จนถึงวันจันทร์ราว 1000 สัญญา..
แต่กลับมา Long โพละเดียวกว่า 500 สัญญาเมื่อวาน.. เอ๊ะ ยังไงเนี่ย..
อ๋อ! สงสัยตลาดจะ sideways อิอิ
ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเริ่มน่ากังวลขึ้นเรื่อยๆ
ถึงขนาดที่ผู้ว่าแบงค์ชาติออกมายอมรับเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า
แข็งเกินพื้นฐานประเทศไปแล้วว (แต่ก็ยังไม่ทำอะไรอยู่ดี ฮ่าๆ).. ในขณะที่เงินเยนก็อ่อนยวบใจชวนให้ไปท่องแดนซากุระซะเหลือเกิน!
เอาละซิประเด็นเรื่องลดดอกเบี้ยก็กลับมาเป็นที่
“คุยกันกระหน่ำเมือง” หรือ “Talk of the town” อีกครั้งละครับ..
หลายฝ่ายต่างก็ให้ความเห็นต่างๆนานา แต่ที่เปรี้ยวที่สุดต้องยกให้ท่านรมว.คลังที่เมื่อสัปดาห์ก่อนลั่นวาจาสะท้านเมืองว่า
คิดจะปลดผู้ว่าแบงค์ชาติอยู่ทุกวี่วัน เพราะไม่ยอมลดดอกเบี้ยซักกะที.. (ย้ำ! แค่คิดนะครับ)
แต่ทันใดนั้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ฮือไปทั่วลั่นสนั่นเมือง.. เอาละๆ
ในเชิงกฎหมายแล้วการจะปลดผู้ว่าได้นั้นไม่ง่าย..
ไหนจะต้องอาศัยอำนาจคณะรัฐมนตรีเอย คณะกรรมการแบงค์ชาติทั้ง 12 คนเอย รวมถึงต้องพบชัดเจนว่ากระทำความผิด
ทุจริต หรือผลงานแย่เป็นที่ประจักษ์
อย่างไรก็ดีบุรุษผู้ซึ่งเป็นบุคคลล่าสุดที่ถูกเชิญออกในฐานะผู้ว่าแบงค์ชาติ
-- ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล (อดีตผู้ว่าธปท.ในสมัยรัฐบาลทักษิณ
-- ผู้เคยมีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลในเรื่องดอกเบี้ยเหมือนกัน)
เสนอว่าให้ ธปท. ใช้วิธีซื้อเงินตราต่างประเทศแทนเพราะเรามีทุนสำรองอยู่ในระดับที่โอเคนะ..
จะตั้งเป็นกองทุนขึ้นมาก็ได้
ดีกว่าไปลดดอกเบี้ยเพราะอาจไปกระตุ้นให้เกิดฟองสบู่ในอสังหาได้..
ก็ลุ้นกันละครับว่าในการประชุมกนง.วันที่ 29 พ.ค.นี้ แบงค์ชาติจะทำอย่างไร.. ขอแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ให้นักลงทุนตกใจเป็นพอ
No comments:
Post a Comment