สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2556
มีเวลาอีกราว 1 เดือนครับก่อนจะถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด
(FOMC) ในวันที่
17 - 18 ก.ย.นี้ [จริงๆสัปดาห์นี้เรามีเรื่องพ.ร.บ.งบประมาณปี
57 เข้าสภา แต่ผมไม่คิดว่าจะมีประเด็นอะไรร้อนแรง ส่วนสัปดาห์หน้ามีเรื่องพ.ร.บ. 2
ล้านล้านบาท ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะไม่ผ่านอีกเช่นกัน.. ไปว่ากันต่ออีกทีในศาลรัฐธรรมนูญโน่น]
ซึ่งผมขอเรียกเลยว่ามันเป็นการประชุมหยุดโลก! เพราะมีนักวิเคราะห์ กูรู ปรมาจารย์
นักเศรษฐศาสตร์อีกหลายท่านมองว่าเพลานี้น่าจะเหมาะที่สุดที่จะลดขนาด QE ลงมาบ้าง..
อีกทั้งเหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้ผมต้องมาเขียนล่วงหน้าก่อนเป็นเดือน นับว่าไม่ธรรมดา
เราควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนจะถึงวันนั้น มีข้อแนะนำ (แต่ไม่จำเป็นต้องทำตาม)
ดังนี้
1. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด (เพราะถ้าดีขึ้นเยอะๆ
โอกาสที่จะยก QE ออกบ้างก็มีสูง) โดยล่าสุดตัวเลข
Retail sales ในเดือนก.ค.ปีนี้ขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่
4 บอกเป็นนัยๆครับว่าการจ้างงานดีขึ้นอีกแล้ว เศรษฐกิจอเมริกาไม่แจ่มให้มันรู้ไป
2. ตามข่าวผู้ว่าธนาคารกลางคนใหม่ของสหรัฐฯจักกะหน่อย
แม้ว่าผมจะเคยเขียนไปแล้วเมื่อเดือนก่อนที่นี่ http://nakkanaayok.blogspot.com/2013/07/blog-post_17.html แต่ก็มีความคาดหมายใหม่ออกมาครับว่า
คุณ Lawrence Summers ได้มาแรงแซงโค้งขึ้นเป็นตัวเกร็งแทนคุณ
Janet Yellen เรียบร้อยแล้ว
โดยคุณ Lawrence หรือ
Larry นิเป็นตัวดีเลยละครับ
เพราะถึงแม้แกจะชอบนโนบายดอกเบี้ยต่ำ แต่ก็ชอบที่จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคุณ Janet ซึ่งหากมีความคาดหวังว่าแกจะได้เป็นผู้ว่าฯเพิ่มขึ้น
ก็น่าจะไม่ค่อยดีกับหุ้นในตลาดเกิดใหม่เท่าไหร่ครับ
3. เตรียม list รายชื่อหุ้นที่พื้นฐานดี (บริษัทดี)
แต่ราคาตอนนี้ไม่ถูกไว้ซัก 5-10 บริษัท (หรือจะมากกว่านั้นก็ตามแต่ศรัทธา) เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจะได้พร้อมเลือกสอยตอนราคาถูกๆ
4. หาจังหวะเหมาะๆ รอตลาดหุ้นเด้งดีดๆ Short Futures ซักนิดเพื่อป้องกันความเสี่ยงซักหน่อย
5. เตรียมเงินสดให้พร้อม
ทั้งนี้และทั้งนั้นอะไรก็ไม่แน่นอนครับ
เกิดผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯคนปัจจุบันเกิดทำอะไรแผลงๆขึ้นมาเป็นการทิ้งทวนก่อนอำลาตำแหน่งในต้นปีหน้า เช่น
เพิ่มขนาด QE ซะเลย
ไหนๆเศรษฐกิจอเมริกามันกำลังดีกำลังมันส์ก็ให้มันดีมันส์ๆด้วยอัตราเร่งไปเล้ยย...
ถ้าเป็นงั้นจริงผมคงจนปัญญายอมศิโรราบขอกราบงามๆซัก 3 จบ
และหุ้นในตลาดเกิดใหม่ก็คงทะยานทะลุเพดานไป
แต่หากลืมตาตื่นขึ้นมาในชีวิตจริงไม่อิงอะไรก็จะพบว่ามันแทบจะเป็น Mission Impossible
ครับ.. เพราะถ้าคิดตามเหตุและผลแล้วในเมื่อคนไข้(กรองแก้ว)เริ่มฟื้น คุณ(ชาย)หมอจะให้ยาโด๊ปฉีดๆๆเข้าไปเหมือนตอนอาการโคม่าได้หรือ?
รังแต่จะทำให้อาการที่ดีขึ้นแล้วกลับแย่ลงครับ ฉันใดก็ฉันนั้น
เศรษฐกิจที่ดีขึ้นแล้วหากยังกระตุ้นด้วยการอัดฉีดเงินในปริมาณที่สูงเท่าเดิม
เผลอๆจะเป็นอันตรายเอา (Balance
sheet ของ Fed เต็มไปด้วยเหล่าพันธบัตรและ MBS หมดแว้ว
อ่ะจ๊าก!)
ไม่แน่นะ เราจะเห็นการ Exit
strategies เร็วกว่าที่คิดไว้ก็ได้ใครจะรู้
สุดท้ายนี้ไหนๆสภาก็กำลังถกกันเรื่องงบประมาณ
ผมเลยนำ breakdown งบประมาณปี
56 มาให้ดูกัน.. โชคดีทุกท่านครับ