สวัสดีครับ,
เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2556
ผ่านพ้น “ห้วงเวลาผ่อนคลาย” ไปได้ 2 อาทิตย์
หุ้นไทยก็กลับมาเคาะหน้าประตูหมายเลข 1400 ได้อีกครั้ง
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะดัชนีได้เปิดรูโบ๋ (Gap) ไว้เมื่อวันที่
20 สิงหาคม 2556 ที่ 1380-1400 พร้อมๆกับ MACD ที่ส่งสัญญาณ Bullish
Divergence ในภาพรายวัน (ดัชนีลง สวนทางกับ Indicator ที่ปรับขึ้น) ได้ช่วยกันบึ้ดจั้มบึ้ดให้ตลาดกลับมาสดใสอีกครั้ง
จากนี้ไปยังไง?
ก่อนอื่นก็ขอชะแว้ปมาอัพเดทสถานการณ์ในตลาดอนุพันธ์เล็กน้อยครับ ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้เจ้า
S50U13 ก็ได้เคลื่อนไหวไล่จี้ SET50 Index มาติดๆ ห่างกันเพียงเอื้อมมือหรือประมาณ
4 จุดเท่านั้น หรือศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า Basis เท่ากับ -4
ทั้งนี้ทั้งนั้นและทั้งโน้น เจ้า Basis เคยลงไปต่ำสุดถึง
-18.82 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 (นับตั้งแต่ที่ S50U13 active) โดยวันนั้น SET
Index ปิดที่ 1355 และในอีก 5 วันทำการถัดมา ตลาดก็ลงมาเกือบ 100 จุด
คำว่า Future แปลว่า อนาคต, SET50 Index Futures แปลตรงๆ ก็คือ
อนาคตของ SET50 Index ดังนั้น การที่ราคา Futures ลงไปก่อนล่วงหน้าเยอะๆ ก็เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งครับว่า
อาจมีการปรับตัวของ SET50 Index ได้.. เพราะประโยชน์ข้อนึงของ Futures ก็คือ Price
Discovery คือ ใช้ทำนายราคาของสินค้าอ้างอิง (Spot) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
แล้วถ้าสมมติว่าเจ้า Basis จากปัจจุบันที่ -4 ถ่างออกมาเป็น -10 กว่าอีกครั้งละ
จะเกิดอะไรขึ้น?
ถ้าเป็นเช่นนั้น ตามหลักแล้วตลาดก็ควรจะพักหรือย่อครับ (ลองดู Indicator
อื่นประกอบด้วย)
เพราะมองในเชิง relative ก็ถือว่าราคา Futures ลงไปล่วงหน้าเยอะขึ้นละ..
แต่หาก Basis จาก -4 กลับขึ้นและกลายเป็นค่าบวกขึ้นมา แสดงว่า นักลงทุน Bullish
มากขึ้นละ
ตลาดน่าจะขึ้นต่อได้ไม่ยาก อย่างไรก็ดี ณ เวลาที่ผมเขียนอยู่นี้ หุ้นไทยขึ้นมาแล้วกว่า 130 จุด หรือราว 10% จาก low
บริเวณ
1260 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2556
พักบ้างมั้ย หรืออยากจะไปต่อ?