สวัสดีครับ,
ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าผันผวนมากทีเดียวเพราะดัชนีได้ลงไปเยี่ยมที่ระดับต่ำกว่า 1300 จุด แล้วก็กลับมายื้อแถว 1360 ใหม่ ทั้งนี้ความผันผวนในช่วงที่ผ่านมาผมยกเครดิตให้กับตลาดหุ้นโลกเลยครับ โดยเฉพาะจีนที่พี่แกเล่นบวกลบกันทีสะท้านทรวงกว่าวันละ 3-5% (เล่นเอาตลาดหุ้นไทยจิ๊บๆไปเลย) ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่าดัชนี VIX ที่ใช้เป็นตัวแทนวัดค่าความเสี่ยงและความผันผวนของหุ้นได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อวันที่ 24 สิงหา ที่ผ่านมา ซึ่งก็ตรงกับวันก่อนหน้าที่หุ้นไทยจะหลุด 1300 จุดเพียงแค่วันเดียว

กลับมาที่ภาพใหญ่ครับ ทาง Morgan Stanley (Exclusive partner ของหลักทรัพย์บัวหลวง) เมื่อต้นสัปดาห์ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงมาทั้งปีนี้และปีหน้า (ดูตาราง) โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาใน Emerging markets (EM) ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเรื่องค่าเงินหยวน ความผิดหวังของตัวเลขเศรษฐกิจใน EM ขนาดใหญ่ เช่น บราซิล เกาหลี ไต้หวัน ตุรกี หรือจะเป็นเรื่องผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในอนาคตที่อาจจะมีผลต่อ EM มากกว่า Developed markets (DM) ทั้งนี้ได้สะท้อนออกมาโดยหุ้นใน EM ได้ underperform หุ้น DM ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาถึง 13.5% (ในขณะที่ Dollar index เป็นขาขึ้น) รวมถึง Earnings ของหุ้นใน EM ก็ถูกปรับลดประมาณการด้วยอัตราเร่งที่มากกว่าใน DM


อย่างไรก็ดี แม้ตรงนี้จะสะท้อนภาพระยะยาวที่ดูไม่ค่อยสดใสนักสำหรับ EM (รวมถึงไทย) แต่ภาพระยะสั้นในตลาดหุ้นไทยเริ่มดูดีขึ้นนะครับ หลังจากนักลงทุนต่างชาตินับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาจนถึง 1 กันยา ได้กลับมาเป็นผู้ long สุทธิใน SET50 futures ถึง 28,609 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยถึง 2 วันติดต่อกัน หลังจากขายมา 4 หมื่นกว่าล้านบาทในช่วงเดือนที่ผ่านมา พอผมเห็นตัวเลขตรงนี้แล้ว ก็เลยรู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก จุ๊กกรู๊
