เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2555
สัปดาห์นี้ขอวกกลับมาที่เรื่อง SET50 Futures ซักหน่อย.. เพราะเซ้นส์ผมมันบอกว่านักลงทุนหลายท่านที่ลงทุนในหุ้น กำลังมองหาวิธีกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง (Diversification) ในสภาวะที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูงเช่นนี้.. รู้ได้ไงอะ? กระต๊าก! การขายล่วงหน้าหรือ short SET50 futures ก็เป็นวิธีนึงที่น่าสนใจครับ.. หรือที่เราเรียกว่า Hedging นั่นแหละ อิอิ.. ซึ่งจริงๆ แล้วราคาของเจ้า SET50 Futures ที่ท่านๆเห็นกัน – นอกจากเรื่อง demand supply ตามกลไกตลาด หรือประเด็นเรื่องขาใหญ่ ขาโจ๋ คุมตลาด (มีจริงหรอ??) แล้ว – มันถูกกำหนดมาจากทฤษฎีหนึ่งที่กระผมเคยกล่าวไว้เมื่อครั้งกระโน้นครับ.. นามว่า Cost of Carry Model นิละ โฮะๆๆ.. (ร้อนยอย.. ย้อนรอยไปอ่านได้ที่ลิ้งนี้ http://nakkanaayok.blogspot.com/2012/08/7-set50-index-futures.html) เอาละ.. เพื่อดาวดวงนั้น! ผมจะขยายความให้ว่า.. จริงๆ แล้วมีปัจจัยอะไรที่มากระแทกราคา SET50 Futures บ้าง
- ต้นทุนในการกู้ยืม: คืองี้ครับ.. แบบว่า ในการลงทุนใน Futures เค้าจะถือว่ามีต้นทุน.. ซึ่งจะอยู่ในรูปอัตราดอกเบี้ย โดยอาจเกิดจากเราไปยืมเงินคนอื่นมาซื้อสินค้าอ้างอิงนั้น.. หรือถึงแม้เราจะไม่ได้ยืมใคร ก็จะอยู่ในรูปแบบของต้นทุนค่าเสียโอกาส (ที่เราจะเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นแทน) ดังนั้นราคาของ SET50 Futures จะแปรผันไปตามต้นทุนในการกู้ยืม.. ซึ่งปกตินักวิเคราะห์เค้าจะอ้างอิงต้นทุนการกู้ยืมกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร รัฐบาลระยะสั้น (ของบัวหลวงเราใช้ดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือน).. อธิบายง่ายๆ ว่า ถ้าดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นเพิ่มขึ้น ราคา SET50 Futures ก็ควรจะเพิ่มขึ้นละ.. อะโจ้ยย!
- ราคาของสินค้าอ้างอิงหรือ SET50 index: ชะช้า.. แน่นอนละ.. มีฟิวเจอร์สก็ต้องมีสินค้าอ้างอิง.. ซึ่งเจ้าสินค้าอ้างอิงที่นามว่า SET50 Index นั้น.. เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของตลาดหุ้นไทยละครับ (ความสัมพันธ์ > 98%) เพราะฉะนั้นในการวิเคราะห์ ก็วิเคราะห์กันทั้งสภาพตลาดโลด.. เช่น วิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ดูอัตราการเติบโตของ GDP, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น.. หรือจะวิเคราะห์ในเชิงจิตวิทยา เช่น คาดการณ์ว่านักลงทุนส่วนใหญ่คิดอย่างไร.. กลัวปอดดิ้น หรือใจกล้าน่า(รัก)อยู่นะ? เอ.. แล้วเราจะเป็นชาวสวน หรือชาวไล่ (ตามๆเค้าไป) ดี.. แต่ถ้าจะให้เป๊ะๆ ก็ต้องนิเลย.. จัดชุดใหญ่ วิเคราะห์พื้นฐานหุ้นทั้ง 50 ตัวที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี SET50 เลยละ.. ซึ่งผมว่า.. ลำบากไปแฮะ
- อัตราผลตอบแทนของ SET50 Index: เอิ่ม.. เอาง่ายๆนะครับ.. ถ้าหุ้นในดัชนี SET50 มีอัตราการปันผลเยอะขึ้น ราคาของ SET50 Futures จะลดลง.. สวนทางกันว่างั้นเถอะ.. เพราะว่าผลตอบแทนที่ได้จะชดเชยกับต้นทุนที่เพื่อนๆต้องเสียจากการกู้ยืมไป นั่นเองขอรับ (+ +) งงม่ะ.. อิอิ :P
- อายุคงเหลือของสัญญา: สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด.. ยิ่ง SET50 Futures อายุคงเหลือมาก.. ราคาของ SET50 Futures ก็จะมากตามไปด้วย.. เปรียบได้กับการที่เพื่อนๆ ต้องถือครอง SET50 Index นานขึ้น.. ทำให้ต้นทุนในการถือครองหรือต้นทุนในการกู้ยืมเพิ่มขึ้นนั่นเอง.. (พอต้นทุนการกู้ยืมเพิ่ม ราคา SET50 Futures ก็มากตามไงละ.. อ่านข้อ 1 ซิ คิคิ)
No comments:
Post a Comment